ด้านธนาคาร (Banking) งานธนาคารใช้ระบบคอมพิวเตอร์หลากหลายที่สุด เรียกกันว่า ตั้งแต่ขนาดเล็กสุดไปจนถึงใหญ่สุด ที่มีการใช้งานมากส่วนใหญ่เกี่ยวกับกระบวนการในการจ่ายเงินระบบอิเล็กทรอนิกส์และ
การบริการ
สำหรับเรื่องการจ่ายเงินนั้นไม่ใช่เป็นเรื่องง่าย เพราะต้องเกี่ยวข้องกับระบบความปลอดภัยหลายขั้นตอน โดยเฉพาะข้อจำกัดด้านเวลา ซึ่งเมื่อพัฒนาระบบขึ้นมาแล้วต้องมีการทดสอบการใช้งานบนอินเตอร์เน็ตหลายครั้ง เพื่อให้แน่ใจว่า มีความปลอดภัยมากที่สุด จึงจะสามารถนำไปใช้ได้ ส่วนในด้านอื่นๆ มีการนำเอาไปประยุกต์ใช้งานต่อไปนี้ คือ
 

 
        บริการลูกค้า (Customer Service) ได้แก่ การเบิก - ถอนเงินอัตโนมัติ การสอบถามยอดบัญชีเงินคงเหลือ ส่วนใหญ่สามารถใช้งานได้ผ่านเครื่อง ATM การบริการด้านข้อมูลต่างๆ ให้กับลูกค้า นอกจากนี้ ยังมีการสร้างเว็บไซต์ขึ้นมาเพื่อเป็นตัวแทนของธนาคาร เมื่อลูกค้าต้องการอยากทราบข้อมูลเรื่องอะไร สามารถเข้าไปดูรายละเอียดในเว็บไซต์ได้ ซึ่งจะมีเนื้อหาคลอบคลุมเกือบทั้งหมด         
                 
         กระบวนการชำระเงินผ่านเว็บไซต์ (Web Payment Processes) กระบวนการทำธุรกิจ ลักษณะนี้ เป็นการทำธุรกิจจากบริษัทธุรกิจสู่ผู้บริโภค (B2C) แต่ว่าการทำธุรกิจแบบระหว่างธุรกิจด้วยกัน (B2B) ก็มีการนำเอาระบบนี้มาใช้เหมือนกัน คือ เอามาช่วยในการจัดซื้อสินค้า อย่างไรก็ตามธุรกิจพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์ทั้งสองแบบก็มีกระบวนการใช้ตะกร้าซื้อสินค้า (Shopping Cart) ซึ่งลูกค้าสามารถเลือกซื้อผลิตภัณฑ์ที่แสดงในแค๊ตาล็อก และเลือกเอาไปใส่ในตะกร้าสินค้า และมีการชำระเงินผ่านบัตรเครดิต บนเว็บไซต์ โดยจะมีการให้กรอกหมายเลขบัตรเครดิตลงไป

         การโอนเงิน อิเล็กทรอนิกส์ (Electronic Fund Transfer : EFT) การโอนเงิน นิยมใช้กันมากที่สุดในระบบธนาคาร ไม่ว่าจะเป็นการโอนเงินผ่านบัญชี หรือโอนเงินผ่านบัตร ATM นอกจากนั้น อาจมีนิยมใช้งานกันอีกหลายด้าน เช่น โรงงานอุตสาหกรรมขายปลีก ขายส่ง หรือในธุรกิจพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์ (e-Commerce) บางประเภท เป็นต้น สำหรับธนาคารนั้น บางธนาคารอนุญาตให้ลูกค้าสั่งจ่ายเงินทางโทรศัพท์ได้ และที่ได้รับความนิยมมากที่สุด คือการบริการชำระเงินผ่านเว็บไซต์ เช่น PayPal และ BillPoint มีการโอนเงินสดถึงกัน และสามารถเข้าไปตรวจสอบได้ฟรี และมีการชำระเงินค่าสินเชื่อ ผ่านบิลอิเล็กทรอนิกส์ โดยส่วนใหญ่เป็นลูกค้าของธนาคารเอง ซึ่งการชำระเงินผ่านบิลอิเล็กทรอนิกส์เหล่านี้ก็เป็นการใช้อินเตอร์เน็ต ซึ่งระบบนี้บางครั้งเรียกว่า การแลกเปลี่ยนเอกสารอิเล็กทรอนิกส์ (Electronic Data Interchange : EDI)

          ระบบการจ่ายเงินอิเล็กทรอนิกส์ (Secure Electronic Payments) เป็นระบบที่ได้รับการพัฒนา ขึ้นมาใหม่ และมีวิธีการรักษาความปลอดภัยมากขึ้น เช่น การจ่ายเงินผ่านบัตรเครดิต ในการซื้อสินค้าต่างๆ ซึ่งมีวิธีแก้ปัญหาเรื่องความปลอดภัย คือ
  • การสร้างรหัสลับ (Encrypt) ข้อมูลของลูกค้าและสินค้า
  • สร้างรหัสลับระหว่างลูกค้าและผู้มีสิทธิ์ตรวจสอบบัตรเครดิตของบริษัท
  • ทำระบบปิด (Offline) ที่ไวต่อการรับข้อมูล เช่น กดรหัส ATM ผิด 3 ครั้งถูกยึดบัตร เป็นต้น
          บัตรเครดิต(Credit Card) ปัจจุบันบัตรเครดิตนิยมใช้กันทั่วโลก มีทั้งเป็นบัตรที่ให้สินเชื่อ และ บัตรที่ใช้แทนเงินสด ทำให้ลูกค้าได้รับความสะดวกสบาย เมื่อมีการเดินทางท่องเที่ยวไปในสถานที่ต่างๆ หรือการชำระเงินซื้อสินค้า เนื่องจากลูกค้าบางคนไม่ต้องการพกเงินสด บัตรเครดิตนี้ ธนาคารที่เป็นผู้พัฒนาขึ้นมาใช้ครั้งแรกคือ ธนาคารซิตี้แบงค์ (Citibank) จนกระทั่งเป็นที่นิยมแพร่หลายกันอยู่ในปัจจุบัน จาการสำรวจการใช้บัตรเครดิตของ Master Card พบว่า ลูกค้านำบัตรไปใช้ในการซื้อสินค้ามากที่สุด รองลงมาคือ การเติมน้ำมันตามปั้มและรับประทานอาหารตามร้านอาหารต่างๆ การใช้บัตรเครดิตนั้น ต้องใช้ความระมัดระวังมาก เพราะปัจจุบันมีกระบวนการปลอมแปลงบัตรเครดิตกันมาก หากธนาคารไม่มีมาตรการรักษาความปลอดภัยที่ดี อาจทำให้ลูกค้าขาดความเชื่อถือได้

 

 
 
 
 
คำถามชวนคิด
ให้นักศึกษาค้นหาข้อมูลเว็บไซต์ของธนาคารในประเทศไทย พร้อมทั้งบอกชื่อเว็บไซต์และศึกษาข้อมูลของการนำคอมพิวเตอร์มาประยุกต์ใช้ พร้อมทั้งวิเคราะห์ถึงข้อดี ข้อเสีย และผลกระทบของการนำเทคโนโลยีคอมพิวเตอร์มาประยุกต์ใช้ในการทำงาน???

 

     


         
กลับหน้าหลัก กลับหัวข้อการเรียน กลับหน้าก่อน หน้าถัดไป