เกณฑ์ปกติ(Norms) หมายถึงข้อเท็จจริงทางสถิติที่บรรยายการแจกแจงของคะแนนจากประชากรที่นิยามไว้อย่างดีแล้ว
และเป็นคะแนนที่จะบอกระดับความสามารถของผู้สอบว่าอยู่ในระดับใดของกลุ่มประชากร แต่ในทางปฏิบัติประชากรที่นิยาม
ไว้อย่างดีเป็นกลุ่มตัวอย่างที่ดีของกลุ่มประชากรนั่นเอง  แต่ต้องมีจำนวนมากพอที่จะเป็นตัวแทนของประชากรได้ด้วย  ไม่
เช่นนั้นแล้วเกณฑ์ปกติจะเชื่อถือไม่ได้  การสร้างเกณฑ์ปกติขึ้นอยู่กับเกณฑ์ 3 ประการ
         1. ความเป็นตัวแทนที่ดี  การสุ่มตัวอย่างของประชากรที่นิยามทำได้หลายวิธี เช่น สุ่มแบบธรรมดา  สุ่มแบบแบ่งชั้น 
สุ่มแบบเป็นระบบ  หรือสุ่มแบบแบ่งกลุ่ม  เป็นต้น  เลือกสุ่มตามความเหมาะสมโดยการพิจารณาประชากรเป็นตัว
         2.   มีความเที่ยงตรง  การนำคะแนนดิบไปเทียบกับเกณฑ์ปกติที่ทำไว้แล้ว  สามารถแปลความหมายได้ตรงกับความ
เป็นจริง  เช่นคนสอบคณิตศาสตร์ได้ 20 คะแนน  ตรงกับเปอร์เซ็นต์ไทล์ที่ 50 และตรงกับคะแนนที (T) 50 แปลว่า เป็นความ
สามารถปานกลางของกลุ่ม ดังนั้นความสอดคล้องของคะแนนการสอบกับเกณฑ์ปกติตามความเป็นจริง  จึงถือว่าเป็นสิ่งสำคัญ
มาก  ในการแปลความหมายของคะแนนการสอบแต่ละครั้ง
         3.   มีความทันสมัย  เกณฑ์ปกตินั้นขึ้นอยู่กับความสามารถของประชากรกลุ่มนั้น เกณฑ์ปกติที่ศึกษาไว้นานแล้วหลายปี  อาจมีความผิดพลาดจากความเป็นจริงจำเป็นต้องศึกษาใหม่หรือเปลี่ยนแปลงให้ทันสมัยอยู่เรื่อย ๆ โดยทั่วไปแล้วเกณฑ์ปกติ
ควรเปลี่ยนทุก ๆ 5 ปี จึงจะทันสมัย  แต่ถ้าเนื้อหาในหลักสูตรเปลี่ยนแปลงเมื่อไรข้อสอบทั้งหลายก็ต้อง  เปลี่ยนแปลงด้วย 
          ชนิดของเกณฑ์ปกติ
          เกณฑ์ปกติแบ่งชนิดได้ตามลักษณะของประชากรและตามลักษณะของการใช้สถิติ การเปรียบเทียบ  การแบ่งตามลักษณะ
ของประชากรแบ่งได้ดังนี้
          1.   เกณฑ์ปกติระดับชาติ (National Norms) การสร้างเกณฑ์ปกติระดับชาตินั้นใช้  ประชากรที่นิยามไว้มากมาย
ทั่วประเทศ  เช่น  หาเกณฑ์ปกติของวิชาคณิตศาสตร์ระดับมัธยมศึกษาปีที่ 3  ระดับชาติ  ก็จะต้องสอบนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาชั้นปีที่ 3 ทั่วประเทศ  หรือสุ่มตัวอย่างให้ครอบคลุมทั่วประเทศ จำนวนนักเรียนที่จะต้องสอบจึงมีมากมาย เพื่อให้รู้ว่าสร้างเมื่อไร จึงต้องกำหนด วันเดือนปีในการสร้างไว้ด้วย  เพื่อคนใช้เกณฑ์ปกติจะได้รู้ว่าทันสมัยหรือไม่
          2.   เกณฑ์ปกติระดับท้องถิ่น (Local  Norms)  เป็นการสร้างเกณฑ์ปกติระดับเล็กลงมา  เช่น ระดับจังหวัด หรือระดับ
อำเภอการสร้างเกณฑ์ปกติระดับนี้ค่าใช้จ่ายจะน้อยลงและ  เป็นประโยชน์ในการเปรียบเทียบคะแนนของผู้สอบกับคนทั้งจังหวัด
หรืออำเภอในการจัดการศึกษาบางครั้งจังหวัดแต่ละจังหวัดอาจเน้นเนื้อหาวิชาบางวิชาไม่เหมือนกันโดยเฉพาะทางด้านวิชาชีพ บางจังหวัดเน้นการเกษตร บางจังหวัดเน้นอุตสาหกรรม บางจังหวัดเน้นการประมง  เป็นต้น 
          3.   เกณฑ์ปกติของโรงเรียน (School  Norms) โรงเรียนบางแห่งมีขนาดใหญ่นักเรียนแต่ละชั้นมีจำนวนมาก  เวลาสร้าง
ข้อสอบแต่ละวิชา  แต่ละระดับชั้นได้ดีมีมาตรฐานแล้ว จะสร้างเกณฑ์ปกติของโรงเรียนตนเองก็ได้  กรณีสร้างเกณฑ์ปกติของ
โรงเรียนเดียวหรือ กลุ่มโรงเรียนในเครือ  เรียกว่าเกณฑ์ปกติของโรงเรียน  ใช้ประเมินเปรียบเทียบนักเรียนแต่ละคนกับนักเรียน
ส่วน รวมของโรงเรียน  และใช้เกณฑ์การพัฒนาของโรงเรียนได้ด้วย  โดยดูได้จากการศึกษาแต่ละปีว่า เด่นหรือด้อยกว่าปีที่สร้างเกณฑ์ ปกติเอาไว้
          เกณฑ์ปกติที่กล่าวมาเป็นการล้อมกรอบโดยจำนวนประชากรหรือกลุ่มตัวอย่างของแหล่งข้อมูลนั้น  แต่การสร้างเกณฑ์
ปกติมีการสร้างโดยยึดหลักการทางสถิติหลายอย่าง   ดังนี้
          1.   เกณฑ์ปกติเปอร์เซ็นต์ไทล์ (Percentile  Norms)  เกณฑ์แบบนี้สร้างจากคะแนนดิบ  ที่มาจากประชากรหรือ
กลุ่มตัวอย่างที่เป็นตัวแทนที่ดี แล้วดำเนินการตามวิธีการสร้างเกณฑ์ปกติ แต่ที่มักทำกันเมื่อหาค่าเปอร์เซ็นต์ไทล์ก็หยุดแค่นั้น  เกณฑ์ปกติแบบนี้เป็นคะแนนจัดอันดับเท่านั้น  จะนำไปบวกลบกันไม่ได้  แต่สามารถเปรียบเทียบและแปลความหมาย
          2.  เกณฑ์ปกติคะแนนที  (T – score  Norms) นิยมใช้กันมากเพราะเป็นคะแนนมาตรฐานสามารถนำมาบวกลบและ
เฉลี่ยได้ มีค่าเหมาะสมในการแปลความหมาย  คือมีค่าตั้งแต่  0 ถึง 100  มีคะแนนเฉลี่ย 50  ความเบี่ยงเบนมาตรฐาน 10
          3. เกณฑ์ปกติสเตไนน์ (Staninies Norms) คะแนนแบบนี้เป็นคะแนนมาตรฐาน ชนิดหนึ่ง  แต่มีค่าเพียง 9  ตัว
(Standard  Nine  Points)  ค่าตั้งแต่ 1 ถึง 9 คะแนน  เฉลี่ยอยู่ที่คะแนน 5  มีความเบี่ยงเบน มาตรฐานประมาณ 2 วิธีการหามักจะเทียบจากเปอร์เซ็นต์ของความถี่ที่คะแนนเรียงตามค่าจะสะดวกกว่า

คะแนนสเตไนน์

1

2

3

4

5

6

7

8

9

เปอร์เซ็นต์ของจำนวนคน

4%

7%

12%

17%

20%

17%

12%

7%

4%

          4.  เกณฑ์ปกติตามอายุ (Age  Norms)  แบบทดสอบมาตรฐานบางอย่างหาเกณฑ์ปกติตามอายุ  เพื่อดูพัฒนาการในเรื่องเดียวกันว่า  อายุต่างกันจะมีพัฒนาการอย่างไร  โดยมากจะเป็นแบบทดสอบวัดเชาวน์ปัญญา และความถนัดจะหาเกณฑ์ปกติโดยวิธีนี้ ส่วนแบบทดสอบวัดผลสัมฤทธิ์จะหาเฉพาะแบบทดสอบวิชาที่เป็นพื้นฐานจริง ๆ เช่น  ภาษา  และคณิตศาสตร์  เป็นต้น
          5. เกณฑ์ปกติตามระดับชั้น (Grade Norms) เป็นการหาเกณฑ์ปกติตามระดับชั้นว่าคะแนนเท่าไรควรอยู่ระดับชั้นไหนจึงจะเหมาะสม แบบทดสอบที่จะทำเกณฑ์ปกติชนิดนี้ได้ต้องเป็นเนื้อหาเดียวกัน  ดังนั้นการวัดที่มีเนื้อหาแตกต่างกันตามระดับชั้นจะทำไม่ได้  ดังนั้นวิชาที่นิยมมักจะเป็นวิชาพื้นฐานในการสร้างเกณฑ์ปกติตามอายุนั่นเอง  เช่น  คำศัพท์  คณิตศาสตร์เบื้องต้น    แบบทดสอบก็จะเป็นความรู้ที่กว้าง เช่น ศัพท์ก็จะคลุมตั้งแต่ชั้นประถมศึกษาปีที่ 1 ถึงชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 6