เป็นหน่วยของการวัดชนิดหนึ่งที่แปลงรูปมาจากคะแนนดิบเพื่อเปลี่ยนระดับผลการวัด  จากระดับอันดับเป็นระดับอันตรภาค ที่นิยมใช้มี   Z-score  และ T – score
         Z- score    เป็นคะแนนมาตรฐานที่มีทรวดทรงการกระจายเป็นโค้งปกติ ซึ่งมี
                              = 0 และ   S = 1
                              Z    เป็นได้ทั้ง  +  และ  -
                                    เป็น + แสดงว่ามีความสามารถสูงกว่าค่าเฉลี่ย
                                    เป็น  - แสดงว่ามีความสามารถต่ำกว่าค่าเฉลี่ย
        T – score  เป็นคะแนนมาตรฐานที่มีทรวดทรงการกระจายเป็นโค้งปกติ ซึ่งมี
                           = 50 และ S = 10 (แปลงมาจาก Z เพราะว่า Z ติดลบและติดทศนิยม)
         พื้นที่ใต้โค้งของ Z- score   และ T-score  ดังนี้
                            
          Z – score          -3     -2     -1       0       1       2      3
          T – score         20    30    40    50     60     70    80
          ถ้ากำหนดพื้นที่ใต้โค้งเป็น 100 % จะมีคุณสมบัติดังนี้
                 ค่า  Z  จาก    0  ถึง  +1  หรือ    0  ถึง  -1  มีพื้นที่ประมาณ   34  %
                 ค่า  Z  จาก  +1  ถึง  +2  หรือ  -1   ถึง  -2  มีพื้นที่ประมาณ   14  %
                 ค่า  Z  จาก  +2  ถึง  +3  หรือ   -2  ถึง  -3  มีพื้นที่ประมาณ    2  %
          หมายเหตุ    ค่า T มีคุณสมบัติทำนองเดียวกับค่า Z เช่น
                 ค่า  T  จาก  50  ถึง  60     หรือ      40  ถึง  50  มีพื้นที่ประมาณ   34  %
          จากคุณสมบัตินี้เป็นประโยชน์ต่อการแปลความหมายของคะแนน ดังนี้
                 Z  =  0  จะมีความสามารถสูงกว่าคนอื่น  50  คน  ใน  100  คน
                 Z  =  1  จะมีความสามารถสูงกว่าคนอื่น  84  คน  ใน  100  คน
                 Z  =  2  จะมีความสามารถสูงกว่าคนอื่น  98  คน  ใน  100  คน
                 Z  = -1  จะมีความสามารถสูงกว่าคนอื่น  16  คน  ใน  100  คน
                 Z  = -2  จะมีความสามารถสูงกว่าคนอื่น    2  คน  ใน  100  คน
         หมายเหตุ   ค่า T แปลความหมายของคะแนนทำนองเดียวกับค่า Z  เช่น
                T  =  50  จะมีความสามารถสูงกว่าคนอื่น  50  คน  ใน  100  คน
                T  =  70  จะมีความสามารถสูงกว่าคนอื่น  98  คน  ใน  100  คน
         วิธีหา  Z-score       หาได้จากสูตร ดังนี้
                Z - score   =       
                      เมื่อ  Z     คือ    คะแนน  Z – score
                              X     คือ    คะแนนดิบ
                             คือ    ค่าเฉลี่ย
                            S.D   คือ    ส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน
         วิธีหา  T-score      หาได้โดยการใช้สูตร ดังนี้
                  T-score   =   10Z + 50
                       เมื่อ   T      คือ    คะแนน  T – score
                                Z      คือ    คะแนน  Z – score
         ตัวอย่าง   สมศักดิ์สอบวิชาสถิติได้   50   คะแนน ซึ่งในกลุ่มนี้มีค่าเฉลี่ย  45คะแนนและส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน เท่ากับ 5
                  อยากทราบว่าสมศักดิ์ได้คะแนนเมื่อแปลงเป็น  Z-score แล้วเท่าไร
                  Z - score   =    
                                    =     1
                  สมศักดิ์ได้คะแนนมาตรฐาน Z- score  เท่ากับ  1
          ตัวอย่าง   สมศักดิ์ สอบวิชาสถิติได้    Z-score = 1  อยากทราบว่าสมศักดิ์ได้คะแนนเมื่อแปลงเป็น  T-Score แล้วเท่าไร
                  T – score  = 10(1) + 50
                                    =  60
                   สมศักดิ์ได้คะแนนมาตรฐาน T- score  =  60
          การใช้   Z – score   และ T – Score
         1.  ใช้บอกระดับความสามารถในกลุ่ม  โดยใช้การแปลความหมายของคะแนน    Z – score   และ T – score    ซึ่งจะทำให้ทราบว่าแต่ละคนมีความสามารถมากน้อยแค่ไหนสูงกว่าคนอื่นมากน้อยเพียงใด
          2.  ใช้เปรียบเทียบความสามารถในด้านต่าง ๆ ของเด็กเพื่อช่วยให้เห็นสภาพความสามารถในแต่ละด้านของเด็ก
แต่ละคน