สมรรถภาพทางกายมีส่วนเกี่ยวข้องกับการเคลื่อนไหวของร่างกายให้มีประสิทธิภาพ  กล้ามเนื้อส่วนต่างๆ ของร่างกาย  จำเป็นต้องได้รับการเสริมสร้างความแข็งแรงให้พร้อมที่จะรับความหนักของงานได้ทุกรูปแบบ  ในการพัฒนาเสริมสร้างสมรรถภาพทางกายจึงจำเป็นต้องได้รับการเสริมสร้างความแข็งแรงให้พร้อมที่จะรับความหนักของงานได้ทุกรูปแบบ  ในการพัฒนาเสริมสร้างสมรรถภาพทางกายจึงจำเป็นต้องทราบพื้นฐานความต้องการในการเล่นกีฬา  อันจะช่วยให้เกิดประโยชน์ตรงตามความต้องการที่จะนำไปใช้ในการเคลื่อนไหวให้เกิดประสิทธิภาพได้เป็นอย่างดี โดยทั่วไปสมรรถภาพแบ่งออกเป็น

                3.1  สมรรถภาพทางกายทั่วไป  (general physical fitness)  หมายถึง  สมรรถภาพทางกายโดยทั่วไปที่เกี่ยวข้องกับสุขภาพ ความสมบูรณ์ของร่างกาย ความสามารถของกลุ่มกล้ามเนื้อใหญ่ๆ  ที่จะปฏิบัติกิจกรรมได้เป็นเวลานาน  เป็นความสามารถของบุคคลที่จะเคลื่อนไหวได้อย่างมีประสิทธิภาพ  ประกอบด้วย

  1. ความแข็งแรงของกล้ามเนื้อ
  2. ความอดทนของกล้ามเนื้อ
  3. ความอดทนของการไหลเวียนโลหิต
  4. สัดส่วนของร่างกาย 
  5. ความอ่อนตัว


ภาพแสดงความสัมพันธ์ของสมรรถภาพทางกาย

                1. สัดส่วนร่างกาย  (body  composition)   ปริมาณของเนื้อเยื่อไขมันของร่างกาย  ที่มีความสัมพันธ์กับเนื้อเยื่ออื่นๆ  ในร่างกาย  การคำนวณหาปริมาณไขมันหรือจำนวนเปอร์เซ็นต์ไขมันทั้งหมดในแต่ละส่วนของร่างกายโดยเทียบกับน้ำหนักตัว  และปริมาณมวลสารอื่นๆ  ที่ไม่ใช้ไขมันซึ่งส่วนใหญ่เป็นกล้ามเนื้อและกระดูก  โดยใช้เครื่องมือและอุปกรณ์วัดที่เรียกว่า  Skin fold   Calliper  ซึ่งมีความเกี่ยวข้องกับองค์ประกอบของความสมบูรณ์ทางกายทั้งของคนทั่วไปและนักกีฬาในแต่ละชนิด  สัดส่วนและขนาดของร่างกายส่วนต่างๆ  เป็นประโยชน์ต่อการศึกษากลไกลการเคลื่อนไหวของร่างกาย  การศึกษากลไกการทำงานกล้ามเนื้อ  ข้อต่อ  และกระดูก  เพื่อดูว่ามีการเปลี่ยนแปลงของส่วนต่างๆ  ของร่างกายอย่างไรบ้าง

                การที่น้ำหนักตัวเพิ่มขึ้นหรือลดลงในผู้ใหญ่  มักจะเป็นการเพิ่มหรือลดลงของปริมาณไขมันหรือมวลสารในกล้ามเนื้อ  เนื่องจากสารมวลสารของกล้ามเนื้อหรือขนาดของกล้ามเนื้อที่ใหญ่ขึ้นจะสามารถเพิ่มประสิทธิภาพในการหดตัว  ทำให้สามารถออกแรงได้มากขึ้น  ขณะที่ปริมาณไขมันมีความสำคัญในส่วนที่เป็นแหล่งพลังงานสำหรับภาวะที่ต้องออกกำลังกายเป็นเวลานานๆ  การป้องกันการสูญเสียความร้อนจากร่างกายและเป็นส่วนประกอบที่สำคัญของอวัยวะภายในหลายอย่าง  แต่การมีปริมาณไขมันมากเกินไป  เป็นปัญหาต่อสุขภาพ  อาจจะเพิ่มความเสี่ยงของการเกิดโรคต่างๆ  เช่น  โรคที่เกี่ยวกับหัวใจ  หลอดเลือด  และโรคเบาหวาน  ในการกีฬาคนที่มีน้ำหนักมากเกิน  จะเป็นอุปสรรคต่อการเคลื่อนไหวในกิจกรรมกีฬาหรือกิจกรรมอื่นๆ  นักกีฬาจะขาดความคล่องตัว  การเคลื่อนไหวในทิศทางต่างๆ  ทำได้ช้าและไม่ราบรื่น  การมีขนาดกล้ามเนื้อ

และปริมาณไขมันที่เหมาะสมจึงเป็นสิ่งสำคัญในกิจกรรมกีฬาในเด็ก  การทราบปริมาณไขมันในร่างกายในแต่ละช่วงอายุ  ยังเป็นประโยชน์ต่อการควบคุมให้มีเปอร์เซ็นต์ไขมันที่เหมาะสม  การเพิ่มขนาดของเซลล์ไขมันมากเกินไปในวัยเด็กจะทำให้การลดหรือการควบคุมน้ำหนักเมื่อเข้าช่วงวัยผู้ใหญ่เป็นไปด้วยความลำบาก
2. ความอดทนของระบบไหลเวียนเลือดและปอด  (Cardio-respiratory  endurance)  เป็นองค์ประกอบของสมรรถภาพทางกายที่มีความสำคัญมาก  ระบบการไหลเวียนและการหายใจ  จะเกี่ยวข้องกับหัวใจ  ปอด  ทั้งสองระบบมีนี้มีความสัมพันธ์กับโครงสร้างและหน้าที่ด้วยกัน  กล่าวคือกล้ามเนื้อหัวใจทำหน้าที่ปั้มเลือด  เพื่อขนส่งออกซิเจนและสารอาหารไปให้แก่เซลล์ทั่วร่างกาย  ส่วนปอดก็จะนำคาร์บอนไดออกไซด์  (Co2)  และผลผลิตของเสียขับออกไปจากร่างกาย  การออกกำลังกายเพื่อพัฒนาความอดทนของระบบไหลเวียนและปอด  หรือเรียกอีกอย่างหนึ่งว่า  การออกกำลังกายแบบแอโรบิก (aerobic  exercise)  ได้แก่  การวิ่งเหยาะ  ว่ายน้ำ  ปั้นจักรยาน  แอโรบิก  การเดิน  การออกกำลังเหล่านี้สามารถพัฒนาความสามารถของบุคคลในการทำงานประจำวันหรือภารกิจของนักกีฬามีประสิทธิภาพโดยปราศจากการเหนื่อยล้ามากเกิน  ความเหนื่อยล้าเป็นปัจจัยที่ทำให้เกิดการบาดเจ็บบ่อยๆ  ดังนั้น  การพัฒนาความอดทนของระบบไหลเวียนและปอด  สามารถช่วยป้องกันการบาดเจ็บได้
3. ความแข็งแรง  (Strength)  เป็นความสามารถของกล้ามเนื้อกลุ่มหนึ่งที่พยายามออกแรงต้านภายนอก  หรือออกแรงยกน้ำหนัก  เช่น  การดันพื้น  (push  ups)  เป็นต้น  ความแข็งแรงของกล้ามเนื้อจะมีความสัมพันธ์กับคุณภาพชีวิตและภาวะความเป็นอยู่ที่ดี  (Quality  of  life  and  Well-being)  ความแข็งแรงจะเกิดขึ้นได้ในภาวะที่กล้ามเนื้อทำงาน  (หดตัว)  ในรูปแบบที่แตกต่างกัน  ดังนั้น  การฝึกหรือออกกำลังกายกล้ามเนื้อเพื่อให้กล้ามเนื้อมีความแข็งแรงนั้นต้องอาศัยหลักการทำงานของกล้ามเนื้อแบบไอโซเมตริก  (Isometric ; เป็นการพัฒนาความตึงในกล้ามเนื้อ  แต่ไม่มีการเปลี่ยนแปลงความยาวของกล้ามเนื้อ)  การทำงานของกล้ามเนื้อแบบคอนเซ็นตริก (Concentric )  ความยาวของกล้ามเนื้อมีการหดตัวสั้นลง  เช่น  การงอแขนขณะยกดัมเบลล์)  กล้ามเนื้อทำงานแบบอิคเซ้นตริก  (Eccentric  ;  ความยาวของกล้ามเนื้อยืดยาวออกมากว่าขณะพัก  เช่น  การเหยียดแขนออกขณะมือถือดัมเบลล์  การทำงานของกล้ามเนื้อแบบนี้เป็นสาเหตุที่ทำให้เกิดการบาดเจ็บของกล้ามเนื้อมากที่สุด)  และกล้ามเนื้อทำงานแบบไอโซคิเนติก  (Isokinetic ; กล้ามเนื้อหดตัวด้วยความเร็วที่คงที่มุมต่างๆ  กัน  ต้องอาศัยเครื่องมือและอุปกรณ์พิเศษ  ซึ่งมีราคาแพง  เช่น  ไซเบ็กซ์  (Cybex)  นอติลุส  (Nautilus)  การฝึกกล้ามเนื้อแบบนี้ถือได้ว่า  เป็นการฝึกที่ทำให้กล้ามเนื้อมีความแข็งแรงสูงสุด  (Maximal  strength)  ความแข็งแรงของกล้ามเนื้อจึงเป็นปัจจัยสำคัญของความมีสุขภาพดีรวมไปถึงนักกีฬาที่ต้องมีความแข็งแรงเป็นพื้นฐานในการฝึกกีฬาแต่ละชนิด  ทั้งนี้เพื่อป้องกันการบาดเจ็บที่อาจเกิดขึ้นจากกิจกรรมทางกาย
4. ความทนทานของกล้ามเนื้อ  (Muscular  Endurance)   เป็นความสามารถของกล้ามเนื้อที่ออกแรงได้ซ้ำๆ  กันได้นานพอ  ในคนที่มีความฟิตสามารถเคลื่อนที่ได้ซ้ำๆ  กันได้เป็นเวลานาน  โดยไม่มีความเหน็ดเหนื่อย  เช่น  ในการดันพื้น  (Push-ups)  ของบุคคลหนึ่งสามารถทำได้ในหนึ่งนาที  ขณะเดียวกันก็ถือว่าบุคคลนั้นมีความแข็งแรงเป็นอย่างดี  อย่างที่เรียกกันว่าเป็นความแข็งแรงแบบทนทาน  (endurance  strength)  ในชีวิตประจำวัน  คนเราจะมีกิจกรรมทางกายอยู่ตลอดเวลาการเคลื่อนไหวติดต่อกัน  เป็นเวลานานพอสมควร  เช่น  การเดิน  การปั่นจักรยาน  ว่ายน้ำ  และวิ่งเหยาะ  เป็นต้น  กิจกรรมเหล่านี้ถือว่าเป็นกิจกรรมแอโรบิกที่ส่งเสริมการพัฒนาความอดทนของระบบไหลเวียนเลือดและปอดด้วยเช่นเดียวกัน  องค์ประกอบของสมรรถภาพทางกายที่เกี่ยวข้องกับสุขภาพทั้งสองด้านนี้จึงมีความสัมพันธ์กันในการที่ช่วยสร้างภูมิคุ้มกันให้แก่ร่างกายอันเป็นรากฐานของสุขภาพที่ดี
5. ความอ่อนตัว  (Flexibility)  เป็นความสามารถของข้อต่อที่จะเคลื่อนไหวได้อย่างอิสระตลอดช่วงการเคลื่อนไหว  (Range  of  Motion)  ซึ่งส่งผลต่อความยาวของกล้ามเนื้อ  โครงสร้างของข้อต่อ  และปัจจัยอื่นๆ  ในคนที่มีความฟิตสามารถเคลื่อนไหวข้อต่อในร่างกายได้ตลอดมุมการเคลื่อนไหวทั้งในการทำงานความอ่อนตัว  ยังเป็นส่วนสำคัญของทักษะกลไก  โดยเฉพาะกีฬาที่เพิ่มมุมการเคลื่อนไหว  เช่น  ยิมนาสติก  ลีลาศ  เป็นต้น  การฝึกความอ่อนตัวจึงควรทำเป็นประจำร่วมกับการฝึกความแข็งแรง  ทั้งก่อนและหลังการฝึก  ช่วงการฝึกความแข็งแรง  ควรยืดเหยียดกล้ามเนื้อก่อนเป็นการลดความเสี่ยงที่จะเกิดการบาดเจ็บ  ภายหลังจากการฝึกก็ควรยืดเหยียดกล้ามเนื้ออีกครั้งเพื่อลดโอกาสการเป็นตะคริวที่กล้ามเนื้อ  (muscle  cramp) 
เพื่อหลีกเลี่ยงการบาดเจ็บและให้ได้รับประโยชน์สูงสุดจากการฝึกความอ่อนตัวจึงควรมีการอบอุ่นร่างกายในช่วงเวลาที่เหมาะสม  โดยให้อุณหภูมิกล้ามเนื้อสูงขึ้นพอควร  จากนั้นยืดเหยียอดกล้ามเนื้อและให้สูดอากาศเข้าเต็มปอด  หายใจออกอย่างช้าๆ  ในระหว่างทำการยืด  และเมื่อรู้สึกถึงการผ่อนคลายในขณะที่ยืดนั้นให้หายใจออก  การยืดเหยียดควรให้กล้ามเนื้อมีความตึงปานกลาง  อย่าฝืนจนรู้สึกเจ็บและปวด  และควรยืดค้างไว้เป็นเวลา  15-30  วินาที   การหายใจเข้าและออกในอัตราที่ผ่อนคลาย  (at  a  relaxed   rate)   จะทำให้กล้ามเนื้อได้รับประโยชน์สูงสุดจาการยืด  การยืดเหยียดด้านข้างของร่างกาย  ควรให้ทำงานเท่าๆ  กัน  เมื่อยืดข้างหนึ่งก็ควรยืดอีกข้างหนึ่งด้วย

 3.2 สมรรถภาพทางกายพิเศษ  (special  Physical  Fitness) หมายถึงสมรรถภาพทางกายที่จำเพาะเจาะจงเพื่อเสริมสร้างส่งเสริมการปฏิบัติทักษะทางการกีฬา  เป็นความต้องการพื้นฐานของ ประกอบด้วย

    • ความแข็งแรงของกล้ามเนื้อ  (Strength)
    • ความอดทนของกล้ามเนื้อ  (Endurance)
    • พลังกล้ามเนื้อ  (Power)
    • ความเร็ว  (Speed)
    • ความคล่องแคล่วว่องไว  (Agility)
    • ความอ่อนตัว  (Flexibility)
    • ความอดทนของการไหลเวียนโลหิต   (Circulatory  Endurance or Aerobic Endurance))

    ตารางแสดงความต้องการสมรรถภาพทางกายแต่ละประเภทกีฬา


    ประเภทกีฬา

    Aerobic

    Speed 

    Strength

    Endurance

    Flexibility

    Skill

    เต้นแอโรบิค
    เบสบอล
    บาสเกตบอล
    โบว์ลิ่ง
    จักรยาน
    ฮอกกี้
    ฟุตบอล
    ซอฟบอล
    วอลเลย์บอล
    เทเบิลเทนนิส
    เทนทิส เดี่ยว
    เทนทิสคู่
    กรีฑาระยะสั้น
    กรีฑาระยะไกล
    ว่ายน้ำระยะสั้น
    ว่ายน้ำระยะไกล
    เรือพาย
    ยิมนาสติก
    กอล์ฟ
    ศิลปะการต่อสู้
    เรือใบ
    สควอช
    มวยปล้ำ
    ยกน้ำหนัก

    3
    2
    3
    1
    4
    3
    3
    2
    2
    2
    3
    2
    2
    4
    3
    4
    4
    2
    2
    2
    2
    3
    3
    1

    1
    2
    3
    1
    3
    2
    3
    2
    3
    3
    3
    2
    4
    3
    4
    3
    2
    3
    1
    4
    1
    3
    3
    1

    1
    3
    2
    2
    3
    2
    2
    2
    3
    2
    2
    2
    3
    2
    4
    3
    4
    4
    2
    3
    2
    2
    4
    4

    3
    2
    3
    1
    4
    3
    4
    2
    2
    2
    3
    2
    2
    4
    2
    3
    4
    2
    2
    2
    2
    3
    3
    2

    3
    2
    2
    1
    2
    2
    2
    2
    3
    2
    3
    3
    3
    2
    3
    3
    2
    4
    2
    3
    2
    3
    3
    2

    3
    4
    4
    4
    2
    3
    4
    3
    3
    4
    4
    5
    3
    2
    3
    3
    3
    3
    4
    4
    3
    4
    4
    3

    *4 หมายถึงต้องการมากที่สุด  *1 หมายถึงต้องการน้อยที่สุด
    (วิทยาศาสตร์การกีฬากับการพัฒนากีฬานักเรียน:2546)




         
กลับหน้าหลัก กลับหัวข้อการเรียน กลับหน้าก่อน หน้าถัดไป