แบบทดสอบสมรรถภาพทางกลไก
( Motor fitness) เป็นสมรรถภาพทางกายขั้นพื้นฐาน อันจะนำไปสู่การเล่นกีฬาหรือการออกกำลังกายได้อย่างมีประสิทธิภาพและปลอดภัย และ เป็นความต้องการพื้นฐานของนักกีฬา ตัวอย่างเช่น การประสานของกล้ามเนื้อและประสานของตากับมือ (eye-hand coordination) เป็นส่วนสำคัญยิ่งในกีฬาการประเภทต่อสู้ เช่น มวยไทย ปันจักสีลัต และเทควันโด เป็นต้น ประกอบด้วย
1. ความว่องไว ( Agility) เป็นความสามารถในการเคลื่อนไหวหรือเปลี่ยนตำแหน่งตั้งแต่เริ่มต้นหยุด และเปลี่ยนทิศทางที่แตกต่างกันได้อย่างรวดเร็วและแม่นยำ ความว่องไวจึงเป็นทักษะเฉพาะเจาะจง สำหรับนักกีฬาที่ต้องใช้ความว่องไวในการเล่นกีฬา เช่น นักกีฬาจะวิ่งไปข้างหน้าและไปข้างหลัง ด้านข้าง เป็นต้น การฝึกความคล่องแคล่วว่องไวจำเป็นต้องมีความแข็งแรง ความทนทาน ความเร็ว การทรงตัว และทักษะการเคลื่อนไหว ผลของการฝึกจะทำให้นักกีฬาบาสเกตบอ ฟุตบอล ฮอกกี้ ปันจักสีลัต ฯลฯ สามารถหลบหลีก เปลี่ยนทิศทางในการรุกและโต้ตอบได้อย่างรวดเร็วและแม่นยำขณะเดียวกันสามารถควบคุมตำแหน่งร่างกายได้อย่างเหมาะสม เช่น การลงจากที่สูงในกีฬากระโดดสูงค้ำถ่อ เป็นต้น

2. การทรงตัว ( Balance)เป็นความสามารถในการรักษาตำแหน่งของของร่างกายได้อย่างสมดุลทั้งในขณะอยู่กับที่และเคลื่อนไหว การฝึกฝนอย่างมีประสิทธิภาพจะช่วยให้นักกีฬารู้หลักการทรงตัวได้ดีทั้งการรุกและรับ การทรงตัวอยู่กับที่เป็นกิจกรรมส่วนสำคัญในกีฬายิมนาสติกส์ ในขณะที่เกมกีฬา เช่น รักบี้ ฟุตบอล และมวยปล้ำ ต้องรักษาการทรงตัว ในขณะเคลื่อนไหว หากนักกีฬามีความสามารถในการทรงตัวน้อยโอกาสที่จะพ่ายแพ้หรือเสียแต้มก็มีสูงมากเช่นเดียวกัน

3. การประสานงานของกล้ามเนื้อและประสาน ( Coordination) เป็นความสามารถในการใช้ประสานสั่งการในแต่ละส่วนของร่างกายมีการเคลื่อนไหวได้อย่างราบเรียบและแม่นยำ การฝึกการประงานของกล้ามเนื้อส่วนแขน ขา กับประสานตา จะต้องมีความสัมพันธ์กันและกลมกลืนเป็นอย่างดี เช่นในเกมส์กอล์ฟ เบสบอล คาราเต้ ฟุตบอล และแรกเก็ตบอล ฉะนั้น การฝึกให้มือกับตา หรือ เท้ากับตา หรือทั้งสองอย่าง จะต้องมีการประสานงานกันเป็นอย่างดีของกล้ามเนื้อและประสาท

4. พลัง ( Power) เป็นความสามารถในการออก แรงหรือกำลังในเวลาที่สั้นที่สุด เรียกกันว่า พลังระเบิด (Explosive) พลังประกอบด้วย ความเร็วและความแข็งแรง นักกีฬามีพลังกล้ามเนื้อขาที่แข็งแกร่งซึ่งจะช่วยในการใช้การเคลื่อนที่ในเวลาที่รวดเร็ว เช่นในกีฬากระโดดสูง ขว้างจักร ตีลูกบอล และพุ่งแหลน เป็นต้น

5. ความเร็ว ( Speed) เป็นความสามารถในการเคลื่อนที่ร่างกายหรือส่วนต่างๆ ของร่างกายได้อย่างรวดเร็วจากจุดไปยังอีกจุดหนึ่งด้วยเวลาอันสั้น เช่นการเคลื่อนที่ของนักกีฬา ฟุตบอล บาสเกตบอล และวิ่งระยะสั้น เป็นต้น

6. ปฏิกิริยาตอบสนอง ( Reaction time) การฝึกในด้านนี้เป็นปัจจัยสำคัญมากที่นักกีฬาจะต้องฝึกฝนการสั่งการประสาทให้สัมพันธ์กันกับการตอบสนองทันทีที่ได้รับสิ่งเร้า ซึ่งหมายถึงสิ่งที่มากระตุ้นให้ร่างกายเราตอบสนองอย่างทันที หรือเป็นช่วงเวลาร่างกายมีปฏิกิริยาตอบสนองต่อสิ่งเร้าที่มากระตุ้น เช่น นักกีฬาว่ายน้ำ และนักวิ่งที่เตรียมตัวออกจากแทนสตาร์ท การมีปฏิกิริยาตอบสนองที่ดี จะออกสตาร์ทได้เร็ว หรือในนักกีฬาเทนนิสจะต้องมีปฏิกิริยาทีดีเมื่อวิ่งรับลูกหน้าตาข่าย รวมไปถึงการฝึกปฏิกิริยาตอบสนองในนักกีฬาต่อสู้ทั้งหลาย (วันใหม่ ประพันธ์บัณฑิต 2549)

แบบทดสอบสมรรถภาพทางกลไกที่ใช้กันในปัจจุบันมีรายการทดสอบที่แตกต่างกัน หรือใกล้เคียงกัน ซึ่งแล้วแต่วัตถุประสงค์ของแบบทดสอบ เช่น

2.1 .1 แบบทดสอบสมรรถภาพกลไกของอินเดียน่า ( Indiana Motor Fitness Test) ผู้ที่คิดค้นขึ้นคือ บุ๊ค วอลเตอร์ ( Book Walter)

2. 1 .2 แบบทดสอบสมรรถภาพทางกลไกทางทหารบก ( Motor Fitness Test for The Armed Force)

2. 1.3 แบบทดสอบทางกายที่ใช้ทดสอบกับนักบินนาวี ( The Naval Pre-Fligth Program)

2. 1 .4 แบบทดสอบสมรรถภาพกลไกระดับประถมศึกษา ( Elementary School Motor FitnessTests) ของแฟรงค์กลิ้น และเลห์เสตน ( Franklin and Lehsten)

2. 1 .5 แบบทดสอบสมรรถภาพกลไกของโอเรกอน ( Oregon Motor Fitness Test) เป็นต้น

 



         
กลับหน้าหลัก กลับหัวข้อการเรียน กลับหน้าก่อน หน้าถัดไป