8. อันตรายต่อหัวใจและหลอดเลือด
อันตรายต่อหัวใจและหลอดเลือดพบได้น้อย แต่เมื่อเกิดอันตรายขึ้นบางครั้งจะเป็นอย่างรุนแรง หรืออาจเสียชีวิตได้ ( ชูศักดิ์ :2539 อ้างถึงในสารวิทยาศาสตร์การกีฬา ปีที่ 6 ฉบับที่ 1)
8.1 อันตรายต่อหัวใจ
อันตรายต่อหัวใจที่พบได้บ่อยคือ ( 1) หัวใจเต้นผิดจังหวะ ( arrhythmias), (2) กล้ามเนื้อหัวใจตายจากการขาดเลือด ( infarction), (3) การเสียชีวิตทันที (sudden death)
( 1) หัวใจเต้นผิดจังหวะ ( Arrhythmias) หัวใจเต้นผิดปกติมักพบได้ในคนที่ไม่ได้มีการอุ่นเครื่องมาก่อนหรือเป็นการออกกำลังกายแบบเกร็งอยู่กับที่ ( isometric exercise) หรือการออกกำลังกายที่มีการเคลื่อนไหว ( isotonic exercise) ที่มีความหนักใกล้ระดับสูงสุด ส่วนประกอบของภาวะหัวใจเต้นผิดจังหวะนั้นขึ้นอยู่กับสภาพของหัวใจ คืออาจมีการเต้นผิดจังหวะไม่มากนักและไม่เป็นรุนแรง แต่ในผู้ที่มีโรคหัวใจแฝงอยู่ เมื่อออกกำลังกายอย่างหนักก็อาจทำให้เกิดภาวะหัวใจเต้นผิดปกติประเภทที่เป็นรุนแรงได้
(2) กล้ามเนื้อหัวใจตายจากการขาดเลือด ( infarction) อันตรายต่อหัวใจนี้ประเภทโดยทั่วไปพบได้น้อย ถ้าพบความผิดปกติเกิดขึ้นมักเป็นในผู้สูงอายุ หรือผู้ที่เป็นโรคหัวใจมาก่อนแต่อาจไม่ทราบ อย่างไรก็ดีมีผู้พบอันตรายที่ทำให้กล้ามเนื้อหัวใจขาดเลือดในผู้ที่มีอายุน้อยและพบในผู้ที่ไม่ได้เป็นโรคหัวใจ ซึ่งยังไม่ทราบสาเหตุและกลไกแน่นอน
(3) การเสียชีวิตทันที (sudden death) การเสียชีวิตทันทีจากการออกกำลังกายนี้พบได้น้อยมาก แต่ก็ได้รับความสนใจเป็นพิเศษ เพราะเมื่อเกิดขึ้นย่อมหมายถึง เป็นอันตรายที่ไม่มีโอกาสได้รับการแก้ไขหรือเยียวยาได้เลย สาเหตุที่สำคัญของการเสียชีวิตทันทีนั้นเกิดจากกล้ามเนื้อหัวใจตายจากการตีบของหลอดเลือด coronary แต่เป็นที่หลอดเลือดหลายเส้น ปัจจัยที่เกี่ยวข้องอาจเกิดจาก การตื่นเต้นมาก มีความพยายามที่จะออกกำลังกายต่อไปถึงแม้จะเหนื่อยอ่อนมากแล้ว หรืออาจเกิดจากการออกกำลังกายที่เกร็งกล้ามเนื้ออยู่นาน ( sustain-ed) มีการพบว่าผู้ที่เสียชีวิตทันทีจากขณะออกกำลังกายจะมีได้มากกว่าในขณะที่ไม่ได้ออกกำลังกาย 3 หรือ 4 เท่า มีรายงานว่าการเสียชีวิตทันทีมักพบได้เสมอในการแข่งขันวิ่งมาราธอนฟุตบอล เทนนิส เป็นต้น
8.2 อันตรายที่เกิดเนื่องจากหลอดเลือด
การออกกำลังกายทำให้ความดันเลือดสูงขึ้น โดยเฉพาะความดันเลือดซีย์สโตลิค ถ้าออกกำลังกายหนักความดัน ซีย์สโตลิค ยิ่งสูงมากขึ้น อย่างไรก็ดี การออกกำลังกายแบบ static ยังมีผลต่อความดันเลือดต่างจากการออกกำลังกายแบบดัยนามิคส์ คือการออกกำลังกายแบบสแตติดคส์ ทำให้ความดันไดแอสโตลิคสูงมากกว่าและความดัน ซีย์สโตลิคมากกว่าด้วย ดังนั้นอันตรายของการออกกำลังกายต่อหลอดเลือดที่สำคัญอาจทำให้หลอดเลือดในสมองแตกได้ โดยเฉพาะผู้ที่มีความดันเลือดสูงอยู่แล้ว และถ้าการออกกำลังกายเป็นแบบสแตติคส์ก็จะเกิดอันตรายได้มากกว่า อย่างไรก็ดีการออกกำลังกายเป็นวิธีการอย่างหนึ่งที่ช่วยให้ความดันเลือดลดลง แต่ความดันเลือดต้องไม่สูงมากหรือความดันสูงมากแต่ได้รับการรักษา ควบคุมด้วยยาไว้ก่อนแล้ว
8.3 อันตรายจากการออกกำลังกายที่ไม่ได้มีการอุ่นเครื่อง (warm-up) และผ่อนคลาย (warm-down)
8.3.1 ผลเสียที่ไม่ได้มีการอุ่นเครื่อง
(1) มีการเหนี่ยวรั้งเนื่องจากการปรับตัวของร่างกายได้ทันจากการทำงานที่ไม่พร้อมหลายอย่าง คือ การปล่อยออกซิเจนจากเลือดได้น้อย การปล่อยออกซิเจนมาก myogolbin ได้ช้า เลือดไหลไปยังกล้ามเนื้อหัวใจได้น้อย เหงื่อออกช้าทำให้ระบายความร้อนได้น้อย
(2) ประสิทธิภาพของการเคลื่อนไหวไม่ดี ซึ่งเกิดจากปัจจัยหลายอย่างดังนี้ กล้ามเนื้อมีความหนืด เลือดไหลไปยังกล้ามเนื้อน้อย เอ็นและข้อต่อมีความฝืดดังนั้นจึงมีโอกาสได้รับอันตรายจากการออกกำลังกายได้ง่าย
8.3.2 ผลเสียจากการไม่ได้มีการผ่อนคลายมีได้ดังนี้ คือ
(1) มีการตื่นตัวจากการเล้า (fatigue) ได้ช้าเพราะทำให้การเคลื่อนย้ายกรดแลคติคออกจากกล้ามเนื้อได้น้อย
(2) ผลต่อระบบไหวเวียนเลือด หลังจากออกกำลังกายอย่างหนักแล้วหยุดทันที่จะทำให้เลือดจากส่วนล่างของร่างกายไหลเวียนเข้ากับหัวใจได้น้อยเพราะขาด muscle pump จากกล้ามเนื้อขา เลือดจึงไปเลี้ยงสมองได้น้อย อาจเกิดอาการมึนศีรษะ ถ้าเป็นมากก็อาจเป็นลมหมดสติได้
(3) ผลต่อหัวใจ ในการออกกำลังกายอย่างหนักโดยเฉพาะการออกกำลังกายแบบแอโรบิคจะทำให้ Catecholamine ในเลือดเพิ่มอาจมีผลต่อหัวใจทำให้เต้นผิดปกติในขณะหยุดออกกำลังกายได้ cardiac arrhythmia อาจเป็นอย่างไม่รุนแรงจนถึงเป็นอย่างรุนแรงได้ ภายหลังออกกำลังกายหนักจะมี catecholamine ในเลือดเพิ่มสูงขึ้น ซึ่งจะช่วยเร่งให้เกิดภาวะหัวใจเต้นผิดจังหวะและกล้ามเนื้อหัวใจขาดเลือด แต่ถ้ามีการผ่อนคลายด้วยกายออกกำลังกายประมาณ 5-10 นาที จะช่วยป้องกันไม่ให้เกิดอันตรายดังกล่าวได้
|