Greeting ( การทักทาย) |
|
คำทักทายคำแรกเมื่อพบปะกันที่ใช้กันมากที่สุด ได้แก่คำว่า Hello ซึ่งหมายถึงสวัสดีครับ หรือ สวัสดีค่ะ ส่วนคำว่า Hi ซึ่งมีความหมายเดียวกับ นั้น จะใช้ทักทายกับเพื่อนหรือคนที่รู้จักคุ้นเคยเท่านั้น |
การทักทายแบ่งเป็น 2 แบบ คือ การทักทายแบบเป็นทางการ เรียกว่า Formal Greeting ใช้สำหรับทักทายคนที่ไม่สนิทสนม หรือผู้ที่อาวุโสกว่า และการทักทายแบบไม่เป็นทางการ ที่เรียกว่า Informal Greeting ใช้สำหรับทักทายเพื่อนหรือคนที่สนิทสนมกัน |
|
ลองศึกษาตารางด้านล่างนี้ดูนะครับ |
|
Formal Greeting การทักทายแบบเป็นทางการ |
|
Formal Greeting |
Meaning |
Good morning |
อรุณสวัสดิ์ |
Good afternoon |
สวัสดี (ช่วงบ่าย) |
Good evening |
สวัสดี
(ตอนเย็น-หัวค่ำ) |
How are you ? |
สบายดีหรือเปล่า |
How are you doing ? |
สบายดีหรือเปล่า |
I m fine , thank you . |
สบายดี ขอบคุณ |
I m fine , thanks. |
สบายดี ขอบคุณ |
Im not very well. |
ไม่ค่อยสบาย |
Its nice to see you . |
ดีใจที่ได้เจอกันอีก |
Nice to see you . |
ดีใจที่ได้เจอกันอีก |
Im glad to see you . |
ดีใจที่ได้เจอกันอีก |
Good to see you . |
ดีใจที่ได้เจอกันอีก |
|
|
นี่คือตัวอย่าง การทักทายแบบเป็นทางการ(Formal Greeting) ไว้นำไปใช้เวลามีโอกาส นะครับ
A : Good morning, Mr. Noi, how are you?
สวัสดีครับ คุณน้อย สบายดีหรือ B : I'm fine, thank you,Mr. Sek. And how are you?
สบายดีครับ คุณล่ะครับเป็นยังไงคุณเสก A : Very well, thank you.
สบายดีครับ ขอบคุณ
อีกสักตัวอย่างนะครับ
A : Good morning, Mr. Billy.
สวัสดีครับคุณบิลลี่ B : Good morning, Miss Ann. How are you?
สวัสดีครับคุณแอน เป็นยังไงบ้างครับ สบายดีหรือ A : I'm very well, thank you. And how are you?
สบายดีครับ ของคุณ แล้วคุณล่ะครับ B : Quite all right, thank you. สบายดีครับ ขอบคุณ |