การแจกแจงความถี่ เป็นวิธีการจัดหมวดหมู่คะแนนที่ได้จากการสอบวัดเพื่อช่วยให้เห็นสภาพโดยส่วนรวมของผลการวัดเหล่านั้น  และเพื่อสะดวกในการแปลความหมาย  การแจกแจงความถี่จำแนกได้ 2 กรณี คือ ใช้คะแนนแต่ละหมู่เพียงค่าเดียว และ  ใช้คะแนนหมู่ละหลายค่า
          วิธีสร้างตารางแจกแจงความถี่
         
1.  สำรวจคะแนนต่ำสุดและสูงสุด
          2.  เรียงคะแนนจากสูงสุดไปต่ำสุดลงในตาราง
          3.  ขีดจำนวนแต่ละคะแนนลงในตาราง
          4.   นับขีดจำนวนในแต่ละคะแนน(ช่วงคะแนน) ที่เรียง
          5.   หาความถี่สะสม

                   
ตัวอย่าง 1  นักเรียน 20 คน สอบได้คะแนนดังนี้  5,6,7,7,9,3,8,10,8,7,6,5,4,9,7,8,7,6,5,4
                    แสดงตารางแจกแจงความถี่กรณีใช้คะแนนแต่ละหมู่เพียงค่าเดียว

คะแนน

ขีดจำนวน

จำนวนความถี่(f)

ความถี่สะสม (cf)

10
9
8
7
6
5
4
3

/
//
///
/////
///
///
//
/

1
2
3
5
3
3
2
1

20
19
17
14
9
6
3
1

 

ตัวอย่าง 2  นักเรียน 20 คน สอบได้คะแนนดังนี้  5,6,7,7,9,3,8,10,8,7,6,5,4,9,7,8,7,6,5,4
                    แสดงตารางแจกแจงความถี่กรณีใช้คะแนนหมู่ละหลายค่า (2 ค่า)

                  

ช่วงคะแนน

ขีดจำนวน

จำนวนความถี่(f)

ความถี่สะสม (cf)

9-10
7-8
5-6
3-4

///
////////
//////
///

3
8
6
3

20
17
9
3

 

          การใช้การแจกแจงความถี่
         
1.  ใช้บอกสภาพการสอบของกลุ่ม ว่าคะแนนมีการกระจายเป็นอย่างไรบอกให้ทราบว่าคะแนนแต่ละตัวมีคนได้กี่คน
          2.  ใช้หาความถี่สะสม ซึ่งช่วยให้เห็นระดับหรือตำแหน่งของคะแนนแต่ละตัวว่ามีคนได้คะแนนตั้งแต่ต่ำสุดถึงคะแนนนั้นมีจำนวนกี่คน
          3.  ใช้ในการหาการกระจายของคะแนน เพื่อสรุปลักษณะคะแนนของทั้งกลุ่ม โดยหาความสัมพันธ์ของคะแนนแต่ละคะแนน(X)  กับจำนวนความถี่ (f) โดยการเขียนกราฟ จะได้ทรวดทรงการกระจายในรูปแบบต่าง ๆ กันดังนี้

                   การกระจายแบบเบ้ทางบวก (Positive  Skewness)
                   การกระจายแบบนี้แปลว่าผู้สอบส่วนใหญ่ สอบได้คะแนนน้อย แสดงว่าข้อสอบยาก  หรือผู้สอบส่วนใหญ่มีความสามารถต่ำหรือเรียนอ่อน

                    การกระจายแบบเบ้ทางลบ (Negative  Skewness)
                    การกระจายแบบนี้แปลว่าผู้สอบส่วนใหญ่ สอบได้คะแนนมาก แสดงว่าข้อสอบง่าย  หรือผู้สอบส่วนใหญ่มีความสามารถสูงหรือเรียนเก่ง

                   การกระจายแบบสูงโด่ง (Leptokurtic)
                  การกระจายแบบนี้แปลว่าคะแนนของผู้สอบเกาะกลุ่มกันหรือสอบได้คะแนนใกล้เคียงกัน แสดงว่าข้อสอบมีอำนาจจำแนกต่ำ  หรือความสามารถของผู้เรียนกลุ่มนี้ใกล้เคียงกัน

                   การกระจายแบบโค้งปกติ (Normal  Curve)                  
                   การกระจายแบบนี้แปลว่าผู้สอบส่วนใหญ่ สอบได้คะแนนน้อยไปหามาก ส่วนใหญ่สอบได้คะแนนกลาง ๆ ของกลุ่ม 
แสดงว่าความสามารถของผู้เรียนมีตั้งแต่ต่ำสุดถึงสูงสุด แต่ส่วนใหญ่มีความสามารถ  ปานกลาง