กลวิธีในการสืบค้นสารสนเทศ |
|
|
|
การสืบค้นสารสนเทศ ผู้ใช้ควรมีความรู้และทักษะในการสืบค้นประเภทต่างๆ เพื่อ นำไปเลือกใช้ให้ |
เหมาะสม โดยทั่วไปวิธีการสืบค้น ประกอบด้วย |
|
1.การสืบค้นแบบพื้นฐาน (basic search) เป็นการสืบค้นแบบเรียงตามลำดับตัวอักษรแรกของ |
คำค้นที่นิยมวิธีการหนึ่ง โดยใช้รายการสำคัญต่างๆ เช่น ชื่อเรื่อง ชื่อผู้แต่ง หัวเรื่อง ชื่อชุด เลขเรียกหนังสือหรือ |
รหัสประจำตัวของทรัพยากรสารสนเทศ เลขมาตรฐานสากลประจำหนังสือ หรือเลขมาตรฐานสากลประจำวารสาร |
|
1.1 การสืบค้นด้วยชื่อเรื่อง (title, title alphabetical, title starting with) เป็นวิธี |
การสืบค้นโดยใช้ชื่อเรื่องของทรัพยากรสารสนเทศ เช่น ชื่อหนังสือ ชื่อวารสาร ชื่อหนังสือพิมพ์ ชื่อเทปโทรทัศน์ |
ชื่อซีดีรอม เป็นต้น |
|
1.2 การสืบค้นด้วยชื่อผู้แต่ง (author, author alphabetical, corporate names) |
เป็นวิธีการสืบค้นจากชื่อผู้แต่ง บรรณาธิการ ผู้แปล ผู้ผลิตวัสดุ หรือผู้รับผิดชอบในการตัดทำแนวทางในการสืบค้น |
|
1.3 การสืบค้นด้วยหัวเรื่อง (subject, subject alphabetical, subject heading) |
เป็นวิธีการสืบค้นโดยใช้คำ วลี หรือชื่อบุคคล ที่ใช้เป็นหัวเรื่องแทนเนื้อเรื่องของทรัพยากรสารสนเทศ การสืบค้น |
ด้วยวิธีนี้จะใช้ในกรณีที่ไม่ทราบชื่อผู้แต่ง หรือชื่อเรื่องแต่ทราบสาระสำคัญของเรื่อง ข้อจำกัดของการสืบค้นด้วย |
หัวเรื่อง คือ การกำหนดคำ หรือวลี ที่ไม่ตรงกันระหว่างผู้ใช้กับหัวเรื่องที่กำหนดขึ้นใช้ |
|
1.4 การสืบค้นด้วยชื่อชุด (series alphabetical) เป็นวิธีการสืบค้นโดยใช้ชื่อชุดของ |
หนังสือ หรือชื่อชุดทรัพยากรสารสนเทศเป็นรายการสืบค้นที่เหมาะสมสำหรับการสืบค้นรายการทุกรายการที่ตีพิมพ์ |
เผยแพร่ในชุดนั้น โดยทั่วไปชื่อชุดมักปรากฏที่ปกนอก ปกใน หรือหน้าลิขสิทธิ์ของหนังสือ |
|
1.5 การสืบค้นด้วยเลขเรียกหนังสือ (call number) เป็นวิธีการสืบค้นโดยใช้เลขเรียก |
หนังสือ หรือรหัสทรัพยากรสารสนเทศประเภทต่างๆ เป็นจุดเข้าถึง |
|
1.6 การสืบค้นด้วยเลขมาตรฐานสากลประจำหนังสือ (ISBN) และเลขมาตรฐานสากล |
ประจำวารสาร (ISSN) เป็นวิธีการสืบค้นโดยใช้เลขมาตรฐานสากลประจำหนังสือหรือเลขมาตรฐานสากล |
ประจำวารสาร ในการตรวจสอบรายการทางบรรณานุกรมเพื่อสั่งซื้อกับสำนักพิมพ์อาจใส่เครื่องหมาย - |
หรือไม่ใส่ก็ได้ |
|
|
2. การสืบค้นด้วยคำสำคัญ (keyword search) เป็นการสืบค้นด้วยการใช้คำสำคัญซึ่งจัดอยู่ใน |
คำศัพท์แบบไม่ควบคุม (uncontrolled vocabularies) หรือเรียกอีกชื่อว่าเป็นภาษาธรรมชาติ (natural |
language) ที่ผู้สืบค้นสามารถกำหนดคำค้นใดๆ ในการสืบค้นได้อย่างหลากหลายไม่มีหลักเกณฑ์ใดๆ ในการ |
กำหนดคำเหมือนหัวเรื่อง ดังนั้น การใช้คำสำคัญในการสืบค้น ผู้ใช้ควรมีความรู้เกี่ยวกับเทคนิคการสืบค้น |
|
|
2.1 การใช้วิธีการตัดคำ (truncation) เป็นการสืบค้นโดยละตัวอักษรบางตัวของคำศัพท์ |
และแทนที่ด้วยเครื่องหมายดอกจัน (asterisk) หรือเครื่องหมายปรัศนี (question mark) ต่อท้ายคำ วิธีการนี้ |
จะใช้ในกรณีที่ผู้สืบค้นไม่สามารถสะกดคำได้ถูกต้องหรือครบถ้วน การใช้วิธีการนี้ ไม่ควรตัดคำที่สั้นจนเกินไป |
เพราะจะทำให้ได้ผลการสืบค้นไม่ตรงกับความต้องการ |
|
|
2.2 การใช้เครื่องหมายอัญประกาศ (quatation marks) เป็นการสืบค้นโดยใช้ |
เครื่องหมายอัญประกาศ "...." กำกับคำสำคัญที่มีมากกว่า 1 คำ สำหรับใช้กำหนดขอบเขตของเรื่องที่ต้องการ |
สืบค้นให้แคบลงหรือเฉพาะเจาะจง |
|
|
2.3 การใช้ตรรกะบูลีน (boolean logic) เป็นการสืบค้นขั้นสูงที่ใช้การเชื่อมคำเช่น AND |
OR NOT เชื่อมระหว่างคำสำคัญ สำหรับใช้ค้นสารสนเทศที่มีคำสำคัญมากกว่า 1 ชุด หรือมีความต้องการในการ |
ค้นคืนมากกว่า 1 เงื่อนไข โดยมีความแตกต่างในการใช้สืบค้นดังนี้ |
|
|
|
AND |
ใช้เชื่อมระหว่างคำค้น เพื่อให้ได้เรื่องที่แคบลง และตรงกับเรื่องที่ต้องการมากขึ้น |
|
OR |
ใช้เชื่อมระหว่างคำค้นเพื่อให้ได้เรื่องที่มีขอบเขตกว้างมากขึ้น ซึ่งตรงกันข้ามกับ |
|
|
การใช้ AND ในการสืบค้น |
|
NOT |
ใช้หน้าคำค้นที่ไม่ต้องการเป็นการสืบค้น เพื่อให้ได้สารสนเทศเฉพาะเรื่องใดเรื่องหนึ่ง |
|
|
|
|
|
|
|
|
|