|
|
1. สามารถค้นคว้าสารสนเทศที่มีขอบเขตกว้างขวาง หลากหลาย และไว้พรมแดน |
|
|
2. สารสนเทศที่ได้จากการสืบค้นมีความทันสมัย เนื่องจากผู้จัดทำข้อมูลสามารถแก้ไขปรับปรุง |
ได้ง่ายและทำได้ตลอดเวลา |
|
|
3. มีความสะดวกในการสืบค้นเพราะไม่มีข้อดีจำกัดด้านเวลาและสถานที่ ผู้สืบค้นสามารถทำ |
การค้นคืนได้ตลอดเวลาในทุกสถานที่ (anytime anywhere) |
|
|
4. สามารถสืบค้นได้ง่ายและรวดเร็วโดยใช้โปรแกรมค้นหา ในการค้นคืน |
|
|
5. ประหยัดเวลาในการได้รับสารสนเทศเมื่อเทียบกับการส่งด้วยวิธีการอื่นๆ |
|
|
6. สามารถนำไปสร้างองค์ความรู้ใหม่ โดยนำสารสนเทศที่ได้มาจัดหมวดหมู่เป็นฐานข้อมูล |
|
|
7. ช่วยส่งเสริมการเรียนรู้ด้วยตนเอง (self directed learning) และส่งเสริมการเรียนรู้ตลอด |
ชีวิต (life long learning) จากการสืบค้นบนอินเทอร์เน็ตจึงเปรียบได้เป็นห้องสมุดที่ใหญ่ที่สุดในโลก |
|
ข้อด้อยของการสืบค้นสารสนเทศบนอินเทอร์เน็ต |
|
|
1. สารสนเทศที่มีอยู่บนอินเทอร์เน็ตมีความหลากหลาย ไร้พรมแดนทำให้ผู้สืบค้นที่ไม่มีทักษะ |
การสืบค้นอาจเกิดปัญหาจากการสืบค้นสารสนเทศไม่ตรงกับความต้องการเป็นปริมาณมากๆ ทำให้เสียเวลาในการ |
คัดกรอง |
|
|
2. การตรวจสอบรายการอ้างอิงสารสนเทศ ทำได้ลำบากหากมีการปรับปรุงแก้ไขอยู่เสมอ |
เพราะมีการปรับเปลี่ยนเนื้อหาเอกสารใหม่ๆ ตลอดเวลา |
|
|
3. ความน่าเชื่อถือของสารสนเทศที่ได้ ต้องมีการตรวจสอบแหล่งที่มาว่ามีความน่าเชื่อถือใน |
ระดับใด สำหรับการนำไปอ้างอิง |
|
|
จากการที่เวิลด์ไวด์เว็บ มี เว็บเพจ (web page) ที่เก็บสะสมสารสนเทศอย่างมากมายและมี |
การขยายตัวเพิ่มขึ้นทุกวันแต่มักถูกจัดเก็บรวมไว้อย่างไม่เป็นระเบียบ ทำให้การสืบค้นสารสนเทศที่ต้องการเป็น |
ไปด้วยความยากลำบาก การกำหนดกลยุทธ์ในการค้นหาและใช้ความรู้ด้านเครื่องมือช่วยค้นมาใช้ในการสืบค้น |
สารสนเทศย่อมทำให้ผู้ใช้ได้สารสนเทศกับความต้องการ |
|
|
หลักการค้นคืนสารสนเทศบนอินทอร์เน็ต ในการสืบค้นสารสนเทศบนอินเทอร์เน็ต |
ผู้สืบคนควรปฏิบัติ ดังนี้ |
|
|
1. กำหนดวัตถุประสงค์ของการสืบค้น โดยตั้งวัตถุประสงค์ของการสืบค้นให้ชัดเจนว่า |
ต้องการ สารสนเทศเรื่องอะไร เพื่อให้การกำหนดขอบเขตของแหล่งสารสนเทศที่จะสืบค้นแคบลง รวมทั้งระยะเวลา |
ของ สารสนเทศที่ต้องการ |
|
|
2. เลือกประเภทของสารสนเทศที่สืบค้น สารสนเทศที่มีบริการบนอินเทอร์เน็ตมีหลาย |
รูปแบบ เช่น ข้อความ รูปภาพ ภาพเคลื่อนไหว หรือมัลติมีเดีย ซึ่งผู้สืบค้นควรเลือกประเภทของสารสนเทศให้ตรง |
กับลักษณะการนำไปใช้ แต่การสืบค้นที่รวดเร็วและมีประสิทธิภาพที่สุดคือ การสืบค้นสารสนเทศประเภทข้อความ |
|
|
3. เลือกใช้เครื่องมือหรือโปรแกรมค้นหา ในการสืบค้นสารสนเทศนิยมใช้โปรแกรมค้นดู |
เว็บ เช่น Internet Explorer Opera หรือ Netscape แล้วเรียกใช้บริการเวิลด์ไวด์เว็บประกอบกับการใช้ |
โปรแกรมค้นหา (search engine) ซึ่งมีอยู่มากมายบนอินเทอร์เน็ตในการสืบค้นประกอบด้วย |
|
|
4. เลือกใช้คำค้น เช่น คำสำคัญ (keyword) หัวเรื่อง (subject heading) ที่เกี่ยวข้องกับ |
เนื้อหาที่ต้องการ และกำหนดขอบเขตของคำค้นโดยใช้ตัวเชื่อมบูลีน เช่น AND OR NOT NEAR BEFORE |
เป็นต้น หรือการค้นด้วยวลี (phrase searching) การตัดคำหรือการใช้คำเหมือน |
|
|
5. ประเมินความน่าเชื่อถือของสารสนเทศ หลังการสืบค้นสารสนเทศที่ได้จากการค้นคืน |
ผู้สืบค้นควรประเมินความน่าเชื่อถือของสารสนเทศดังกล่าวว่าตรงกับเรื่องที่ต้องการหรือไม่ เนื้อหาที่ได้ไม่ขัดต่อ |
กฎหมาย ศีลธรรมหรือจริยธรรม มีการระบุชื่อผู้เขียนบทความ หรือ ผู้ให้ข้อมูลบนเว็บไซต์ มีรายการอ้างอิงหรือระบุ |
ที่มาของข้อมูลปรากฎบนเว็บไซต์ มีการระบุวันเวลาในการเผยแพร่หรือการปรับปรุงข้อมูล |
|
|
|