2. การนำวิทยาศาสตร์การกีฬาไปใช้

การนำวิทยาศาสตร์การกีฬาไปใช้ในการเรียนการสอนและการพัฒนาศักยภาพและความสามารถทางการกีฬาของนักกีฬาสามารถกระทำได้ตลอดเวลา โดยการปรับเนื้อหาวิทยาศาสตร์การกีฬาให้เหมาะสมสอดคล้องกับวุฒิภาวะของผู้เรียน และกิจกรรมพลศึกษา ซึ่งสามารถกระทำได้ดังนี้

1. การใช้วิทยาศาสตร์การกีฬาเพื่อสร้างสมรรถภาพทางกาย โดยผู้สอนสามารถนำความรู้ทางด้านวิทยาการออกกำลังกายมาช่วยในการวิเคราะห์ความสามารถทางกายด้วยกระบวนการทดสอบทางสรีรวิทยาและกีฬาเวชศาสตร์มาช่วยในการป้องกันและการรักษาการบาดเจ็บทางการกีฬา

2. การใช้วิทยาศาสตร์การกีฬาเพื่อพัฒนาทักษะกีฬา โดยผู้สอนสามารถนำความรู้ด้าน ชีวกลศาสตร์การกีฬามาช่วยในการวิเคราะห์วิจัยการเคลื่อนไหวของนักกีฬาในท่าทางต่างๆ กัน โดยใช้โสตทัศนูปกรณ์ อุปกรณ์และสถานที่ต่างชนิดประกอบการสอนทักษะจะช่วยพัฒนาวิธีการใหม่ๆ ที่มีประสิทธิภาพดีที่สุด และการใช้ความรู้ทางกายวิภาคและสรีรวิทยาของมนุษย์ในการวิเคราะห์ระบบกล้ามเนื้อ และโครงสร้างของร่างกายเพื่อพัฒนาทักษะกีฬาของนักเรียนแต่ละคนได้อย่างเหมาะสม

3. การใช้วิทยาศาสตร์การกีฬาเพื่อพัฒนาการเคลื่อนไหวของร่างกาย โดยนำความรู้ทางด้าน ชีวกลศาสตร์และการเคลื่อนไหวร่างกายมาช่วยในการวิเคราะห์การเคลื่อนไหวร่างกาย ให้เป็นไปอย่างมีทิศทาง เร็ว และแม่นยำ เพราะการเคลื่อนไหวร่างกายที่มีประสิทธิภาพจะทำให้การเรียนรู้ทางทักษะกีฬาดีขึ้น ซึ่งผู้สอนสามารถสอดแทรกกับการเรียนการสอนในชั้นเรียนและการฝึกซ้อมได้ตลอดเวลา

4. การใช้วิทยาศาสตร์การกีฬาเพื่อการทดสอบ วัดผล และประเมินผลในการสอนพลศึกษาหรือการฝึกกีฬา การทดสอบสมรรถภาพทางกลไก หรือการทดสอบความรู้ทางพลศึกษาจำเป็นอย่างยิ่งที่ต้องใช้เครื่องมือที่มีพื้นฐานความถูกต้องทางวิชาการ และสามารถนำไปประเมินและอธิบายด้วยหลักการทางวิทยาศาสตร์การกีฬาได้อย่างน่าเชื่อถือ

5. การใช้วิทยาศาสตร์การกีฬาเพื่อพัฒนาสภาพจิตใจ โดยนำความรู้ทางด้านจิตวิทยาการกีฬาไปพัฒนาคนให้เป็นคนดีทั้งทางด้านร่างกาย สังคม ความคิด ปัญญา และจิตวิญญาณ โดยใช้กิจกรรมการออกกำลังกายและการเล่นกีฬาเป็นเครื่องมือ

6. การใช้วิทยาศาสตร์การกีฬาเพื่อศึกษา ค้นคว้า วิจัย โดยนำผลการวิจัยทางด้านการพลศึกษามาใช้ในการจัดการเยนการสอนในชั้นเรียน การจัดทำหลักสูตรท้องถิ่นและพัฒนาหลักสูตรการเรียนการสอนระดับต่างๆ ให้มีความชัดเจน เหมาะสม และสอดคล้องกับความแตกต่างระหว่างบุคคล ความสามารถทางกายและวุฒิภาวะของผู้เรียน

7. การใช้วิทยาศาสตร์การกีฬาเพื่อเสริมสร้างสุขภาพและภาวะความสมบูรณ์ของร่างกาย โดยให้ความรู้ทางด้านโภชนาการกีฬา หลักสรีรวิทยาในการฝึกซ้อม และวิธีการควบคุมน้ำหนัก เป็นต้น เพื่อให้ผู้เรียนได้รู้วิธีการเสริมสร้างสุขภาพและภาวะสมบูรณ์ของร่างกาย

นักกีฬาที่ประสบความสำเร็จหรือความเป็นเลิศได้นั้น นอกจากนักกีฬาจะต้องมีสมรรถภาพทางกายดีมีสมรรถภาพทางจิตใจดี มีสมรรถภาพทางทักษะกีฬาดี และมีระยะเวลาฝึกซ้อมที่เหมาะสมกับการแข่งขันแล้ว ประการที่สำคัญที่สุดคือ มีผู้ฝึกสอนกีฬาที่มีความรู้ทางด้านวิทยาศาสตร์การกีฬาเป็นอย่างดี มีความชำนาญเฉพาะกีฬา มีความเข้าใจการฝึกนักกีฬาในแต่ระดับอายุ และสามารถนำความรู้ทางด้านวิทยาศาสตร์การกีฬาไปปฏิบัติให้เกิดประสิทธิผลอย่างมีประสิทธิภาพ