ข้อสอบแบบเติมคำเป็นข้อสอบประเภทที่ให้ตอบสั้นๆ มีขอบเขตในการตอบ คำถามอาจอยู่ในรูปคำถามหรือในรูปประโยคบอกเล่าที่เป็นข้อความไม่สมบูรณ์ โดยเว้นช่องว่างสำหรับให้เติมคำหรือข้อความให้ได้ความถูกต้องสมบูรณ์
หลักในการเขียนข้อสอบแบบเติมคำ
ข้อสอบแบบเติมคำเป็นข้อสอบที่ง่าย แต่เพื่อให้ได้ข้อสอบที่มีคุณภาพควรปฏิบัติ ดังนี้
1. ตั้งคำถามให้มีคำตอบสั้นและชัดเจน โดยให้มีคำตอบเป็นคำ หรือวลี
2. ไม่ควรลอกข้อความจากหนังสือ ตำรา มาตั้งเป็นคำถาม
3. ข้อคำถามโดยทั่วไปควรตั้งเป็นแบบคำถามมากกว่าข้อความที่ไม่สมบูรณ์ เพราะข้อความที่ไม่สมบูรณ์อาจทำให้มี คำตอบถูกได้หลายคำตอบ
4. ถ้าคำตอบเป็นตัวเลขที่มีหน่วย ควรระบุหน่วยที่ต้องการให้ตอบ
5. ช่องว่างที่เว้นให้เติมควรจะเว้นให้ทุกข้อมีขนาดเท่ากัน
6. ในแต่ละข้อควรมีช่องว่างเว้นไว้ให้เติมคำตอบเพียงช่องเดียว
การตรวจให้คะแนนข้อสอบแบบเติมคำ
การตอบข้อสอบแบบเติมคำอาจมีการกระจายได้หลายอย่าง เพราะไม่มีคำตอบที่แน่นอนตายตัวให้ผู้ตอบเลือกตอบเหมือนข้อสอบประเภทอื่น ดังนั้นในการตรวจให้คะแนนข้อสอบแบบเติมคำควรกระทำดังนี้
1. ถ้าข้อสอบมีคำตอบได้หลายอย่าง ครูควรให้คะแนนคำตอบที่ถูกต้องทุกคำตอบ
2. แต่ละช่องที่ให้เติมคำตอบควรมีคะแนนเท่ากัน
3. ไม่ควรหักคะแนนคำตอบที่ถูกแต่สะกดผิดเนื่องจากเราต้องการวัดความรู้ความสามารถมากกว่าทักษะในการเขียน
คำตอบ
4. ข้อที่นักเรียนตอบผิด ควรเขียนคำตอบที่ถูกให้ก่อนจะคืนข้อสอบให้นักเรียน
5. เพื่อความสะดวกในการตอบ อาจให้นักเรียนเขียนคำตอบในกระดาษคำตอบ เวลาตรวจให้คะแนนก็เอาคำเฉลยมาวางเทียบจะทำให้ตรวจเร็วขึ้น
ข้อดีของข้อสอบแบบเติมคำ
1. สร้างได้ง่ายกว่าข้อสอบแบบเลือกตอบและแบบจับคู่ เนื่องจากไม่ต้องเสียเวลาในการคิดหาตัวเลือก
2. มีโอกาสเดาถูกได้ยาก เนื่องจากข้อสอบประเภทนี้ผู้สอบต้องคิดหาคำตอบเองไม่ใช่เลือกคำตอบที่มีอยู่แล้ว
เหมือนข้อสอบแบบอื่น ๆ
3. ประหยัดเวลาในการตอบ เพราะให้ตอบสั้น ๆ
4. ข้อสอบประเภทนี้มีประโยชน์อย่างยิ่งในการวัดผลวิชาวิทยาศาสตร์และคณิตศาสตร์ เพราะสามารถวัดความรู้เกี่ยวกับข้อเท็จจริง คำศัพท์ กฎเกณฑ์ ความสามารถที่จะหาคำตอบโดยการคำนวณ ทักษะในการใช้สัญลักษณ์ สมดุล สมการเคมี ความสามารถที่จะตีความหมายของข้อมูล วัดกระบวนการทางปัญญาขั้นสูง และความสามารถที่จะแปลความหมายจาก รูปภาพหรือ แผนภูมิที่กำหนดให้
ข้อจำกัดของข้อสอบแบบเติมคำ
1. ไม่เหมาะที่จะใช้วัดผลการเรียนรู้ที่ซับซ้อนมาก ๆ
2. มีความยุ่งยากในการให้คะแนน เนื่องจากอาจมีหลายคำตอบ ทั้งยังเกี่ยวข้องกับการใช้ภาษา การสะกดคำ และ
ลายมือไม่ชัดเจนของผู้ตอบ