ประเภทของทรัพยากรสารสนเทศ (ต่อ) |
|
|
|
การนำเสนอเนื้อหาของทรัพยากรสารสนเทศเพื่อการอ้างอิง สามารถจำแนกได้ 10 ประเภท ดังนี้ |
|
|
1. พจนานุกรม (dictionaries) |
|
|
2. สารานุกรม (encyclopedias) |
|
|
3. หนังสือรายปี (yearbooks,almanace,annuals) |
|
|
4. หนังสืออ้างอิงทางภูมิศาสตร์ (geographical sources) |
|
|
5. คู่มือทางวิชาการ (hadbooks, manuals) |
|
|
6. อักขรานุกรมชีวประวัติ (biographical dictionaries) |
|
|
7. นามานุกรม (dierctories) |
|
|
8. สิ่งพิมพ์รัฐบาล (government publications) |
|
|
9. บรรณานุกรม (bibligraphies) |
|
|
10. ดรรชนี (indexes) |
|
|
แต่ละประเภทมีลักษณะสำคัญ ดังนี้ |
|
|
|
|
พจนานุกรม |
|
พจนานุกรม เป็นสารสนเทศอ้างอิงที่เรียงเนื้อหาตามลำดับอักษรของคำ ให้ความรู้เกี่ยว |
กับคำศัพท์ เช่น ความหมาย การสะกดคำ ชนิดของคำ คำที่มีความหมายเหมือนกัน หรือคำที่มีความหมายตรง |
ข้าม ประวัติคำ หรือตัวอย่างการใช้คำ เป็นต้น พจนานุกรมจัดเป็นแหล่งสารสนเทศที่สำคัญสำหรับการเลือกใช้ |
คำในการสื่อสารทางการพูด และการเขียน รวมทั้งการแปลความหมายของภาษา เครื่องมือช่วยค้นที่มักมีการ |
จัดทำในพจนานุกรม เช่น อักษรนำ หรือดรรชนี นิ้วหัวแม่มือ รูปเล่มของพจนานุกรม มักมีความแข็งแรง |
ทนทานต่อการใช้ เนื้อหาในเล่มอาจเป็นหนังสือเล่มเดียวจบหรือหนังสือชุด ขึ้นอยู่กับจำนวนศัพท์ที่รวบรวม |
หากเป็นหนังสือหลายเล่มจบจะมีสัญลักษณ์ประจำเล่มปรากฎที่สันหนังสือหรือปกนอกของหนังสือแต่ละเล่ม |
พจนานุกรม บางเล่มอาจมีภาพสำคัญๆ ประกอบ หรือมีรายละเอียดอื่นๆ เช่น สัญลักษณ์ต่างๆ มาตราชั่ง ตวง |
วัด ปรากฏ ท้ายเล่ม |
|
|
|
|
|
สารานุกรม |
|
สารานุกรมเป็นสารสนเทศอ้างอิงที่มีการเรียงเนื้อหาตามลำดับอักษรของเรื่อง หรือสาขา |
วิชา สารานุกรมให้ข้อมูลที่เป็นความรู้พื้นฐานในเรื่องต่างๆ ซึ่งเขียนหรือเรียบเรียงโดยผู้เชียวชาญในแต่ละสาขา |
ท้ายเรื่องจะมีชื่อหรือชื่อย่อของผู้เขียนกำกับ พร้อมบรรณานุกรมรายชื่อหนังสือและสื่ออื่นๆ ที่ประกอบการเขียน |
เพื่อเป็นแหล่งค้นคว้าเพิ่มเติม เนื้อหาที่นำเสนอในสารานุกรมมีความทันสมัยเพราะมีการปรับปรุงแก้ไขอย่าง |
สม่ำเสมอ เครื่องมือช่วยค้นที่จัดทำในสารานุกรม ได้แก่ ดรรชนีท้ายเล่มของหนังสือ หรือจัดทำเป็นหนังสือ |
ดรรชนี แยกเล่มต่างหาก สารานุกรมบางเล่มมีอักษรนำช่วยค้นหาเนื้อเรื่อง ถ้าเป็นสารานุกรมหลายเล่มจบจะมี |
สัญลักษณ์ประจำเล่ม รูปเล่มของหนังสือสารานุกรมมักจัดทำอย่างแข็งแรงทนทานต่อการใช้งาน สารานุกรม |
แบ่งเป็นสารานุกรมทั่วไป และสารานุกรมเฉพาะวิชาการ สารานุกรมมีความแตกต่างจากพจนานุกรม เพราะ |
พจนานุกรมให้ความรู้เกี่ยวกับคำศัพท์โดยเฉพาะ ความหมายของคำ แต่ สารานุกรมให้ความรู้ทั้งความหมาย |
และคำอธิบายหลายประการ |
|
|
|
|
|
หนังสือรายปี |
|
หนังสือรายปีเป็นสารสนเทศอ้างอิงที่มีกำหนดออกเป็นรายปี จัดทำขึ้นเพื่อรวบรวม |
ความรู้และข้อเท็จจริง เหตุการณ์ความเคลื่อนไหวที่สำคัญ สถิติ ภาพเหตุการณ์สำคัญ ๆ ของประเทศ |
และภูมิภาคต่างๆ ของโลก โดยไม่มีการแสดงความคิดเห็นหรือวิพากษ์วิจารณ์ หนังสือรายปีจึงเป็นแหล่ง |
สารสนเทศที่นำเสนอข้อมูลใหม่ๆ การจัดเรียงเนื้อหาของหนังสือรายปีอาจเรียงตามลำดับหัวข้อใหญ่และหัวข้อ |
ย่อยเช่นเดียวกับหนังสือทั่วไป หรือจัดเรียงตามลำดับ วัน เดือน ปี ของเหตุการณ์ต่างๆ เครื่องมือช่วยค้นพบใน |
หนังสือรายปี คือ สารบัญ หรือดรรชนีท้ายเล่ม หนังสือรายปีจัดแบ่งได้ 3 ประเภท ประกอบด้วย |
|
|
1. หนังสือสมพัตรสรหรือปูมปฏิทิน (almanac) นำเสนอเนื้อหาเกี่ยวกับความรู้ |
ข้อเท็จจริง เหตุการณ์สำคัญที่เกิดขึ้นในรอบปีที่ผ่านมา รวมทั้งสถิติที่สำคัญ ๆ ซึ่งอาจนำเสนอเฉพาะเรื่องหรือ |
จำกัดเฉพาะประเทศใดประเทศหนึ่ง |
|
|
2. หนังสือรายปีของสารานุกรม (encyclopedia supplement) จัดทำขึ้น |
เพื่อปรับปรุงเนื้อหาของหนังสือสารานุกรมชุดให้ทันสมัย เพื่อมุ่งเสนอความรู้ใหม่ๆ หรือ ความก้าวหน้าทาง |
วิชาการในด้านต่างๆ ในรอบปีที่ผ่านมา อาจมีการเสนอสถิติ ประวัติ บุคคล เพิ่มเติม |
|
|
3. รายงานประจำปี (yearbook, annual report) จัดทำขึ้นโดยหน่วยงาน |
ของภาครัฐและเอกชน เพื่อนำเสนอผลการดำเนินงานของหน่วยงานในรอบปีที่ผ่านมา หรือรายงานความ |
ก้าวหน้าทางวิชาการแขนงใดแขนงหนึ่งของหน่วยงาน |
|
|
|
|
|