บทที่ 8 |
การเขียนรายงาน |
|
|
|
|
ปัจจุบันระบบการเรียนการสอนในระดับต่างๆ ตั้งแต่ระดับประถมศึกษาตอนปลายจนถึงระดับ |
อุดมศึกษา ผู้เรียนมักได้รับมอบหมายให้รู้จักการศึกษาค้นคว้าด้วยตนเอง และเสนอผลงานในรูปของรายงาน |
ประกอบรายวิชา ซึ่งอาจารย์ผู้สอนเป็นผู้มอบหมาย การเขียนงานวิชาการไม่ได้จำกัดเฉพาะในสถาบัน |
การศึกษา หากแต่ยังคงมีบทบาทต่อนักศึกษาเมื่อประกอบอาชีพต่างๆ โดยเฉพาะงานที่เกี่ยวข้องกับงานวิชาการ |
เช่น การเขียนตำรา/หนังสือทางวิชาการ การเขียนรายงาน การวิจัย การเขียนบทความหรือบทวิเคราะห์ต่างๆ |
เป็นต้น ดังนั้นการมีความรู้และทำความเข้าใจเกี่ยวกับกระบวนการศึกษาค้นคว้า จึงเป็นประโยชน์ต่อการนำไป |
ประยุกต์กับการเรียนและพัฒนาอาชีพในอนาคต |
|
|
|
|
การศึกษาค้นคว้า เป็นคำกล่าวที่หมายถึง กระบวนการแสวงหาข้อมูล ความรู้ด้วยตนเอง |
จากทรัพยากรสารสนเทศที่มีการจัดเก็บและให้บริการตามสถาบันบริการสารนิเทศต่างๆ เพื่อนำไปใช้ประโยชน์ |
อย่างใดอย่างหนึ่ง และสามารถนำเสนอผลที่ได้จากการศึกษาค้นคว้าให้ปรากฎเป็นรูปธรรมตามลักษณะต่างๆ |
ของผลงานวิชาการด้วย |
|
|
|
ประเภทผลงานวิชาการ |
|
|
|
ผลงานวิชาการที่มีการศึกษาค้นคว้าและเรียบเรียงเป็นรูปเล่มทั้งในระบบการศึกษาและเป็นส่วนหนึ่ง |
ของการทำงานสามารถจัดแบ่งออกเป็น 4 ประเภท คือ |
|
1. รายงาน (Report) |
|
2. ภาคนิพนธ์หรือสารนิพนธ์ (Term Paper) |
|
3. วิทยานิพนธ์/หรือปริญญานิพนธ์ (Thesis/Dissertation) |
|
4. รายงานการวิจัย (Research Report) |
|
ซึ่งผลงานวิชาการในแต่ละประเภท มีลักษณะโดยรวม ดังนี้ |
|
|
|
|
1. รายงาน หมายถึง งานเขียนที่นักเรียนหรือนักศึกษาเรียบเรียงขึ้นจากการศึกษา ค้นคว้าด้วยตนเอง |
หัวข้อของรายงานส่วนใหญ่ ครูผู้สอนจะเป็นผู้กำหนดให้มากกว่านักศึกษาคิดเองและต้องเป็นเรื่องที่มีความเกี่ยว |
ข้องกับรายวิชานั้นๆ การจัดทำรายงานอาจเป็นรายบุคคลหรือเป็นกลุ่ม ก็ได้ และมีระยะเวลาในจัดทำรายงานแต่ |
ละหัวข้อเป็นช่วงเวลาสั้น ซึ่งต้องเสร็จสิ้นภายในภาคเรียนที่มีการเรียนการสอนในรายวิชานั้นๆ |
|
2. ภาคนิพนธ์หรือสารนิพนธ์ หมายถึง งานเขียนของนักศึกษาตั้งแต่ระดับปริญญาตรีที่เรียบเรียงขึ้น |
จากการศึกษาค้นคว้าในเรื่องใดเรื่องหนึ่ง หัวข้อของภาคนิพนธ์อาจกำหนดโดยครู ผู้สอน หรือ นักศึกษาเป็นผู้ |
กำหนดเองก็ได้ แต่ต้องเป็นเรื่องที่เกี่ยวข้องกับสาขาวิชาเอกที่นักศึกษาเรียนอยู่ การจัดทำภาคนิพนธ์มักเป็นงาน |
รายบุคคล และหัวข้อของภาคนิพนธ์จะไม่ซ้ำกับบุคคลอื่นๆ ส่วนระยะเวลาในการทำมีกำหนด 1 ภาคการศึกษา |
และการศึกษาคว้าคว้ามีความละเอียดลึกซึ้งกว่าการเขียนรายงาน |
|
3. วิทยานิพนธ์ หรือปริญญานิพนธ์ หมายถึง งานเขียนของนักศึกษาระดับปริญญามหาบัณฑิต |
และปริญญาดุษฎีบัณฑิตในสาขาวิชาต่างๆ ที่เรียบเรียงขึ้นจากการศึกษาค้นคว้าในหัวข้อใดหัวข้อหนึ่งที่นักศึกษา |
เป็นผู้กำหนดเรื่องที่ต้องการศึกษาค้นคว้าเอง และต้องเป็นเรื่องที่มีความเกี่ยวข้องกับสาขาวิชาที่ศึกษาอยู่ เนื้อหา |
ในวิทยาพนธ์จะต้องก่อให้เกิดการค้นพบใหม่ๆ ซึ่งเป็นประโยชน์ในสาขาวิชาดังกล่าว และเป็นหัวข้อที่ไม่เคยมี |
การศึกษามาก่อน การจัดทำวิทยานิพนธ์ต้องเป็นงานรายบุคคลเท่านั้น โดยทั่วไปวิทยานิพนธ์จะมีโครงสร้าง |
เนื้อหาใกล้เคียงกับการเขียนรายงานการวิจัย คือ ประกอบด้วยบทต่างๆ รวม 5 บท และต้องผ่านการตรวจสอบ |
จากคณะกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิก่อนการนำออกเผยแพร่ |
|
4. รายงานการวิจัย หมายถึง งานที่เกิดขึ้นจากการศึกษาค้นคว้าเพื่อแสงหาคำตอบในเรื่องใดเรื่อง |
หนึ่งที่ต้องการ โดยอาจเป็นส่วนหนึ่งในระบบการศึกษา หรือเป็นส่วนหนึ่งของการทำงานก็ได้ การเขียนรายงาน |
การวิจัยซึ่งเป็นผลจากการค้นคว้าวิจัยนี้ จะมีการทำอย่างเป็นระบบ มีขั้นตอนการทำงานโดยเริ่มจากการกำหนด |
หัวข้อ การกำหนดวัตถุประสงค์ การรวบรวมข้อมูลและการสรุปผลของการวิจัย ดังนั้นการเขียนรายงานการวิจัย |
จึงเป็นการบันทึกกระบวนการของการวิจัยที่มีการดำเนินงานได้หลายประเภท |
|
|
|
|
|
|
|
|
|
|