|
|
|
ขั้นตอนของการเขียนรายงาน (ต่อ) |
|
|
|
|
การบันทึกเนื้อความ |
|
|
การบันทึกเนื้อความที่ได้จากการฟัง การสังเกต หรือการอ่าน สามารถกระทำได้โดยวิธีใดวิธี |
หนึ่งหรือผสมผสานกันหลายวิธี ขึ้นอยู่กับวัตถุประสงค์ของผู้บันทึก การบันทึกสามารถกระทำได้ดังนี้ |
|
|
1. การบอกขอบเขตหรือแนวคิดเรื่องที่อ่าน เป็นการบันทึกขอบเขตหรือเรื่องที่อ่านไว้เพื่อ |
ใช้เตือนความจำและเป็นประโยชน์ในการสืบค้นครั้งต่อไป การบันทึกรูปแบบนี้จึงเป็นการบันทึกสาระหลักของ |
งานนั้นอย่างย่นย่อ |
|
|
2. การสรุปความ เป็นการบันทึกสรุปเฉพาะประเด็นสำคัญของเรื่องที่อ่านและจดสาระที่ต้อง |
การโดยใช้ถ้อยคำสำคัญจากต้นฉบับผสมผสานกับสำนวนของผู้อ่าน |
|
|
3. การถอดความ เป็นการบันทึกที่ได้จากการเรียบเรียงใหม่ แต่รักษาเนื้อความเดิมจาก |
ต้นฉบับไว้อย่างครบถ้วน โดยใช้สำนวนภาษาของผู้อ่าน การบันทึกแบบถอดความมักใช้กับงานเขียนต้นฉบับที่ |
เป็นบทนิพนธ์ประเภทร้อยกรอง หรืองานที่เป็นภาษาต่างประเทศ |
|
|
4. การคัดลอกข้อความ เป็นการบันทึกที่ได้จากการคัดลอกข้อความสำคัญบางส่วนจากข้อ |
เรื่องที่อ่านเพื่อใช้เป็นส่วนหนึ่งของเนื้อหา การเขียนแบบคัดลอกข้อความนี้ มักใช้กับงานเขียนที่มีลักษณะต่อไป |
นี้คือ |
|
|
4.1 เป็นข้อความในเรื่องสำคัญที่หากไม่คัดลอกข้อความเดิมอาจบันทึกผิดพลาดได้ |
|
|
4.2 เป็นงานเขียนที่ดี ถ้าสรุปหรือถอดความอาจไม่ดีเท่าเดิม |
|
|
4.3 เป็นข้อความที่ผู้เขียนรายงานต้องการอ้างอิงเพื่อสนับสนุนความคิดเห็นของตน |
|
|
4.4 เป็นข้อกำหนดหรือกฎระเบียบ ที่ต้องคงไว้ซึ่งรายละเอียดต่างๆ |
|
|
หลักการสำคัญของการเขียนแบบคัดลอกข้อความมี 2 กรณี คือ |
|
|
1. ข้อความที่คัดลอกมามีความยาวไม่เกิน 4 บรรทัด ให้คัดลอกโดยใช้เครื่องหมายอัญประกาศ |
กำกับข้อความ เช่น |
|
|
|
"Operater" หมายถึง บุคลากรที่มีหน้าที่คอยควบคุมการทำงานของอุปกรณ์ Hardware |
ทั้งหมดให้ทำงานได้ตามปกติ ตั้งแต่การเปิดเครื่อง ปิดเครื่อง การจัดและนำเทปหรือ Disk |
ที่จะใช้งานมาใส่ในเครื่อง Disk Unit หรือ Tape Unit " |
|
|
|
|
|
|
|
|
2. ข้อความที่คัดลอกมีความยาวเกิน 4 บรรทัด ให้คัดลอกเป็นย่อหน้าโดยไม่ต้องใส่เครื่องหมาย |
อัญประกาศกำกับข้อความ และหากมีการละข้อความบางส่วนจากต้นฉบับที่คัดลอกไว้ให้ใส่ เครื่องหมาย ... |
ในตำแหน่งที่ข้อความละไว้ เช่น |
|
|
|
|
แผ่นที่ 2 |
|
อยู่ในประเทศไทยทั้งหมดประมาณ 1,300 เครื่อง โดยแบ่งเป็นเครื่องขนาดใหญ่หรือเครื่อง |
เมนเฟรม ประมาณ 100 เครื่อง เครื่องมินิประมาณ 900 เครื่อง และเครื่องไมโครประมาณ |
12,000 เครื่อง ในปี พ.ศ. 2531 ยอดรวมของจำนวนเครื่องคอมพิวเตอร์ทั้งหมดได้สูงขึ้น |
ถึงประมาณ 30,000 เครื่อง ซึ่งในปี 2559 มีการสำรวจพบว่าจำนวนเครื่องคอมพิวเตอร์ |
ประเภทพกพา หรือโน็ตบุ๊คมีจำนวนลดลง เพราะคนนิยมใช้ IPad หรือ Smart Phone |
มาใช้งานแทน |
|
|
|
|
|
|
|
5. การเรียบเรียงเนื้อหาจากการบันทึกข้อมูล เป็นกระบวนการต่อเนื่องจากการจดบันทึก |
ข้อมูลลงในบัตรบันทึกที่ได้จากการอ่าน การฟัง การสังเกต และเป็นข้อมูลที่จะนำมาใช้ในการเขียนรายงาน |
ให้นำบัตรบันทึกข้อมูลมาจัดแยกตามหัวข้อเรื่อง จากนั้นจึงจัดประเด็นของเรื่องให้สอดคล้องกับหัวข้อที่กำหนด |
ไว้ในโครงเรื่องซึ่งอาจเสริมข้อความหรือถ้อยคำให้สละสลวยและเชื่อมต่อข้อมูลให้สัมพันธ์กัน ภาษาที่ใช้ใน |
การเขียนรายงนควรใช้สำนวนหรือคำศัพท์ที่เข้าใจง่าย อธิบายเรื่องใดเรื่องหนึ่งเป็นประเด็น ๆ และหลีกเลี่ยง |
การเขียนเรื่องที่ไม่มีความรู้จริงเพราะจะทำให้เกิดข้อผิดพลาดได้ง่าย |
|
|
6. การเขียนรายการอ้างอิง คือ การเขียนที่ระบุแหล่งที่มาของข้อมูลซึ่งนำมาใช้ประกอบ |
การศึกษาค้นคว้าและเขียนรายงาน อันประกอบด้วย การลงรายการเชิงอรรถ และรายการบรรณานุกรม |
เชิงอรรถสามารถเขียนได้ 3 ประเภท คือ |
|
|
6.1 เชิงอรรถอ้างอิง (Citation Footnote) เป็นการเขียนเชิงอรรถเพื่อบอกแหล่งที่มา |
ของข้อมูล เพื่อให้ผู้อ่านสามารถนำรายละเอียดในเชิงอรรถกลับไปตรวจสอบเนื้อหาจากต้นฉบับที่นำมาอ้างอิงได้ |
|
|
|
6.2 เชิงอรรถเสริมความ (Content Footnote) เป็นการเขียนเชิงอรรถที่ใช้อธิบาย |
ข้อความเพิ่มเติมจากเนื้อเรื่อง ซึ่งเป็นเรื่องที่มีความสัมพันธ์กันแต่ไม่สามารถเขียนในส่วนเนื้อหาได้ เพราะทำให้ |
้ เรื่องที่เขียนไม่กระชับ หรือไม่เกี่ยวข้องโดยตรง |
|
|
|
6.3 เชิงอรรถโยง (Cross Reference Footnote) เป็นการเขียนเชิงอรรถที่ใช้โยงให้ |
ผู้อ่านไปดูรายละเอียดของเรื่องหรือหัวข้อนั้นได้ในส่วนหรือหน้าอื่นของรายงาน |
้ เรื่องที่เขียนไม่กระชับ หรือไม่เกี่ยวข้องโดยตรง |
|
|
|
7. การจัดพิมพ์หรือเขียนรายงาน เป็นขั้นตอนสำหรับการเสนอผลที่ได้จากการศึกษาค้นคว้า |
โดยทั่วไปการเขียนรายงานจะใช้การเขียนหรือพิมพ์เพียงหน้าเดียว ซึ่งมีการกำหนดกรอบของการเขียนหรือพิมพ์ |
ไว้เป็นแบบสากล คือ |
|
7.1 การเว้นระยะของเนื้อหา ประกอบด้วย |
|
|
1) บรรทัดแรกของรายงานต้องอยู่ห่างจากขอบกระดาษตอนบนลงมา 1.5 นิ้ว |
|
|
2) ข้อความในแต่ละบรรทัดที่ไม่มีการย่อหน้าต้องอยู่ห่างจากขอบกระดาษซ้ายเข้ามา |
1.5 นิ้ว |
|
|
3) ข้อความในแต่ละบรรทัดที่มีการย่อหน้าอยู่ห่างจากขอบกระดาษด้านซ้ายเข้ามา 1.5 |
และ นับเข้ามาอีก 7 ตัวอักษร หรือ 11 ตัวอักษร |
|
|
4) ข้อความในแต่ละบรรทัดที่เป็นตัวสุดท้าย ต้องอยู่ห่างจากขอบกระดาษด้านขวา |
เข้ามา 1 นิ้ว |
|
|
5) ข้อความในบรรทัดสุดท้ายของหน้าให้อยู่ห่างจากขอบเข้ามา 1 นิ้ว |
|
7.2 จัดพิมพ์หรือเขียนส่วนประกอบต่างๆ ของรายงานให้ครบถ้วน ซึ่งต้องประกอบด้วย |
|
|
1) ปกนอก |
|
|
2) ปกใน |
|
|
3) คำนำ |
|
|
4) สารบัญ |
|
|
5) เนื้อเรื่อง |
|
|
6) บรรณานุกรม |
|
|
7) ภาคผนวก |
|
|
|
8. การตรวจสอบความถูกต้อง เป็นขั้นตอนสุดท้ายก่อนการเย็บเล่มส่ง สิ่งที่ควรตรวจสอบ |
ได้แก่ การสะกดคำ หัวข้อเรื่องที่จัดทำว่าครบถ้วนตามที่ระบุในโครงสร้างหรือไม่ การจัดลำดับเนื้อเรื่องตรงกับที่ |
ระบุในสารบัญหรือไม่ รายการอ้างอิงและส่วนประกอบที่ต้องมีในรายงานได้รวบรวมครบถ้วนสมบูรณ์หรือยัง ถ้าพบ |
ข้อบกพร่องให้นำกลับไปแก้ไขใหม่ก่อนการนำมาเข้าเล่ม |
|
|
9. เย็บเล่มนำส่ง จัดเป็นขั้นตอนสุดท้ายก่อนการนำส่ง ซึ่งมีวิธีการเช่นเดียวกับการเย็บเล่ม |
หนังสือโดยทั่วไป คือ ใช้การเย็บด้วยลวดเย็บกระดาษด้านข้างของเล่มและปิดด้วยกระดาษกาว หรือเทปสี เพื่อ |
ความเรียบร้อยในการจัดทำ |
|
|
|