หลักการจัดการสุขาภิบาลโรงเรียน
|
|
การสุขาภิบาลที่ดีของโรงเรียนมีหลักในการจัดที่ต้องพิจารณา 3 ประการคือ |
1. |
จัดโรงเรียนให้ปลอดภัยจากโรคติดต่อต่าง ๆด้วยการฉีดวัคซีนป้องกันเมื่อเกิดการ |
ระบาดของโรค ดูแลความสะอาดของอาหารและน้ำดื่ม รวมทั้งประชาสัมพันธ์ข้อมูล |
ต่าง ๆ แก่นักเรียนเพื่อให้เกิดความรู้และป้องกันโรคต่าง ๆ ในเบื้องต้นได้ |
2. |
จัดบริเวณให้สะอาด สะดวกสบาย เพื่อส่งเสริมสุขภาพจิตและอารมณ์ให้นักเรียนมี |
ความรู้สึกดี เกิดสมาธิในการเรียน และเป็นการส่งเสริมสภาพทางร่างกายของเด็ก |
ที่กำลังเติบโตให้มีทัศนคติที่ดี และเป็นการปลูกฝังสุขนิสัยให้เกิดขึ้นและเป็นลักษณะ |
ประจำตัว |
3. |
จัดบริเวณโรงเรียนในทุก ๆ สถานที่ให้เรียบร้อย เป็นการจัดและรักษาความเป็น |
ระเบียบเรียบร้อยในบริเวณต่าง ๆ ของโรงเรียนเพื่อเป็นแบบอย่างแก่นักเรียน เช่น |
โรงอาหารห้องสมุด ห้องเรียน ห้องประชุม เป็นต้น |
|
|
|
|
|
การดำเนินงานสุขาภิบาลโรงเรียน |
|
จากหลักการจัดสุขาภิบาลโรงเรียนดังกล่าว สามารถดำเนินงานสุขาภิบาล |
โรงเรียนให้ปรากฏผลชัดเจน โดยพิจารณาองค์ประกอบต่าง ๆ ดังรายละเอียดต่อไปนี้ |
1. |
ทำเลที่ตั้งโรงเรียน ในการจัดตั้งโรงเรียนใหม่ควรคำนึงถึงสิ่งแวดล้อมด้านต่าง ๆ |
เช่น |
|
1.1 กำหนดพื้นที่ตั้งของโรงเรียน ควรอยู่ในที่ราบน้ำท่วมไม่ถึง ไม่ชื้นแฉะหรือ |
เป็นแอ่งน้ำเพราะจะเป็นที่เพาะพันธุ์ยุง หรือที่ขังน้ำโสโครกได้ |
|
1.2 ไม่ควรสร้างโรงเรียนบนที่สูงเกินไป เช่น ไหล่เขา เพราะทำให้เกิดอุบัติเหตุ |
พลัดตกหกล้มได้ง่าย |
|
1.3 พื้นที่ภายในโรงเรียนไม่ควรเป็นที่โล่งแจ้ง เพราะทำให้มีความร้อนจัดใน |
ฤดูร้อนแต่ไม่ควรมีต้นไม้ใหญ่ใกล้อาคารเกินไปเพราะจะบังแสงสว่าง ขัดขวางการ |
ระบายลมหรืออาจล้มทับโรงเรียนได้ |
|
1.4 ควรปลูกไม้พันธุ์เล็กหรือไม้ดอก เพื่อความสวยงามและรักษาหน้าดินไม่ให้มี |
หญ้าขึ้น หรือเฉอะแฉะเป็นโคลนในฤดูฝน และเป็นฝุ่นในฤดูแล้ง |
|
1.5 พื้นที่ในการปลูกสร้างโรงเรียน ควรคำนึงถึงการขยายตัวของโรงเรียนในวัน |
ข้างหน้าด้วย กระทรวงศึกษาธิการได้กำหนดพื้นที่ของโรงเรียนในชนบทระดับต่าง ๆ |
ไว้ ซึ่งสรุปในรูปของตารางได้ดังนี้คือ |
|
|
|
|
|
2. |
การจัดสิ่งแวดล้อม โรงเรียนที่ตั้งอยู่ในสภาพแวดล้อมที่ดีย่อมมีส่วนสำคัญต่อ |
สุขภาพทางร่างกาย จิตใจ และอารมณ์ ของนักเรียนให้ดีตามสภาพแวดล้อมที่พบอยู่เป็น |
ประจำการจัดตั้งโรงเรียน จึงควรมีลักษณะ ดังนี้ |
|
2.1 ไม่ควรตั้งอยู่ห่างย่านชุมชน เพื่อให้การคมนาคม หรือการสัญจรไปมาสะดวก |
และทำให้นักเรียนไม่ต้องเหน็ดเหนื่อยในการเดินทางไป – กลับโรงเรียน |
|
2.2 ไม่ควรอยู่ติดถนนหรือทางรถไฟ เพราะทำให้มีเสียงรบกวนและอาจเกิด |
อันตรายแก่นักเรียน เช่น อุบัติเหตุ หรือมลพิษทางเสียงได้ |
|
2.3 ไม่ควรอยู่ใกล้โรงเรียนหรือโรงมหรสพหรือใกล้แหล่งสกปรกโสโครก ซึ่งเป็น |
สถานที่ก่อมลพิษในด้านต่าง ๆ เช่น กลิ่น ฝุ่นละออง เขม่าควัน และก๊าซพิษ นอกจากนี้ |
สถานที่ดังกล่าวยังเป็นแหล่งมลพิษทางเสียง ซึ่งรบกวนสมาธิในการเรียนของนักเรียน |
ของนักเรียนด้วย |
|
2.4 ไม่ควรตั้งใกล้แหล่งอบายมุข เช่น โรงแรม บาร์ สถานโบว์ลิ่ง ร้านเล่นเกม |
แหล่งการพนัน แหล่งโสเภณี เป็นต้น เนื่องจากสถานที่เหล่านี้เป็นสิ่งยั่วยุให้นักเรียน |
ทดลองอาจเสียการเรียนและหลงผิดได้ |
|
2.5 ควรมีรั้วรอบขอบชิด เพื่อแสดงขอบเขตของโรงเรียนให้ชัดเจนและป้องกัน |
สิ่งรบกวนจากภายนอก เช่น คน สัตว์ หรือสิ่งอื่น ๆ ที่จะทำลายสมาธิในการเรียน |
และอาจเป็นภัยต่อสวัสดิภาพของนักเรียนด้วย |
3. |
การจัดอาคาร ซึ่งประกอบด้วยอาคารเรียนหรืออาคารประกอบ รวมทั้งสิ่งก่อสร้าง |
ต่าง ๆ ในโรงเรียน เช่น อาคารเรียน โรงอาหารและโรงครัว หอประชุม ห้องพยาบาล |
และห้องน้ำห้องส้วม ลักษณะทั่วไปของการจัดอาคารเพื่อให้มีสิ่งแวดล้อมที่ถูกสุข |
ลักษณะควรคำนึงถึงองค์ประกอบต่อไปนี้ |
|
3.1 การเลือกทำเลที่ตั้ง ควรหันหน้าไปทิศที่จะได้รับลมได้ดี แต่ไม่รับแสงแดดหรือ |
ฝนมากเกินไป อาคารจึงไม่ควรหันหน้าไปทิศตะวันออกหรือตะวันตก |
|
3.2 การออกแบบ การสร้างแบบแปลนควรเลือกใช้ให้เหมาะกับสภาพของภูมิ |
ประเทศและดินฟ้าอากาศที่โรงเรียนตั้งอยู่ รวมทั้งมีขนาดพอเหมาะกับจำนวน |
นักเรียนด้วย |
|
3.3 การก่อสร้าง ต้องพิจารณาถึงวัสดุที่ใช้และรายละเอียดต่าง ๆ ให้เป็นไปตาม |
แบบแปลนซึ่งต้องคำนึงถึงความแข็งแรงในการใช้งานไม่ลื่นและรักษาความสะอาดง่าย |
|
ดังนั้น การจัดสร้างอาคารต่าง ๆ ในโรงเรียนให้ถูกสุขลักษณะควรพิจารณา |
รายละเอียดต่าง ๆ กล่าวคือ |
1. |
อาคารเรียน เป็นสถานที่ใช้เรียนของนักเรียนในการทำกิจกรรมหรือหา |
ประสบการณ์ต่าง ๆ ห้องเรียนจึงเป็นสิ่งแวดล้อมที่ช่วยให้เกิดการเรียนรู้ที่ดีและไม่ดีได้ |
การจัดห้องเรียนควรมีขนาดกว้างและจุนักเรียนไม่เกิน 35 คน เพื่อให้รับแสงสว่าง |
และลมได้เพียงพอ ถ้าเป็นอาคารสองชั้น ควรทำบันไดทางด้านซ้ายหรือขวาของอาคาร |
เพื่อใช้ขึ้นลงอาคาร ขนาดห้องเรียนที่เหมาะสมกับนักเรียนมีอัตราเฉลี่ยคนละ 5 – 8 |
ลูกบาศก์เมตร หรือคนละ 1.50 เมตร สำหรับนักเรียนประถมศึกษา และคนละ 2.50 |
เมตร สำหรับนักเรียนมัธยมศึกษา |
|
ส่วนประกอบต่าง ๆ ของอาคารเรียน มีหลักเกณฑ์ที่เหมาะสม ดังนี้ |
|
1.1 พื้นอาคาร ควรยกให้สูงกว่าระดับน้ำหรือพื้นดิน 1 เมตร เป็นพื้นด้านทำ |
ความสะอาดได้ง่าย ถ้าเป็นพื้นไม้กระดานควรเป็นชนิดอัดเข้าลิ้นเพื่อป้องกันฝุนละออง |
ตกจากชั้นบน ถ้าเป็นพื้นที่มีระดับเสมอพื้นดิน ควรใช้พื้นปูนซีเมนต์ คอนกรีตแผ่นอิฐ |
หรือกระเบื้องปูพื้น ถ้าขาดแคลนวัสดุจากใช้พื้นดินเหนียวที่ทุบแน่นแต่เรียบแทนก็ได้ |
|
1.2 ฝาผนัง ไม่ควรมีลวดลายเพื่อป้องกันการเกาะของฝุ่น และทำให้ง่ายใน |
การทำ ความสะอาด ฝาผนังระหว่างห้องควรทึบเพื่อป้องกันเสียงรบกวนจากห้องอื่น ๆ |
ส่วนฝาผนังด้านอื่น ๆ ควรมีช่องระบายลมระหว่างผนังกับเพดาน ไม่ควรใช้สังกะสี |
เพราะทำให้ร้อน อาจใช้ไม้หรือซีเมนต์จะดีกว่า |
|
1.3 บันได ถ้าเป็นอาคารที่มีความสูงตั้งแต่ 2 ชั้นขึ้นไป ต้องมีบันไดสำหรับขึ้น |
ลงในอาคาร บันไดที่ป้องกันอุบัติตุได้ควรมีลักษณะที่ไม่ลาดหรือชันเกินไปและมีราว |
เกาะความยาวของบันไดไม่ต่ำกว่า 1.20 เมตร ช่วงระหว่างบันไดสูงประมาณ |
12 – 15 เซนติเมตรในแต่ละช่วงบันไดไม่เกิน 14 ขั้น ถ้าเกินควรทำชานพักซึ่งใต้ |
ชานพักอาจทำเป็นห้องเก็บของหรือห้องน้ำ ถ้าอาคารเรียนยาวต่อกันเกิน 4 ห้องเรียน |
หรือ 36 เมตรขึ้นไป ควรทำบันไดขึ้นลงสองแห่งให้พอสมควร |
|
1.4 หลังคาและเพดาน หลังคาของอาคารควรมีความลาดไม่น้อยกว่า 30 องศา |
จากแนวระดับ โดยมีชายคาหรือกันสาดยืนพ้นฝาผนัง หรือตัวอาคาร ประมาณ |
1.50 – 2.00 เมตร ตาม ลักษณะรูปแบบทรงของอาคารและหลังคา เพื่อกันฝนสาดหรือ |
ลมโกรก วัสดุที่ใช้ต้องกันแดดและฝนได้ เช่น กระเบื้องดินเผา กระเบื้องไม้ กระเบื้อง |
ซีเมนต์ สังกะสี จากหรือแฝก ส่วนเพดานควรด้วยไม้ ไม้อัด กระดาษอัด ซีเมนต์ |
แผ่นเรียบ หรือเสื่อลำแพนเพื่อช่วยป้องกันความร้อนในห้องเรียน และฝุ่นละอองจาก |
หลังคาอาคาร |
|
1.5 ระเบียง เป็นส่วนเชื่อมต่อจากห้องเรียนต่าง ๆ ในอาคารเรียน ซึ่งควรมีความ |
กว้างประมาณ 2.00 – 2.50 เมตร และมีลูกกรงหรือพนักกันตลอดเพื่อป้องกันการ |
พลัดหล่นจากอาคาร |
|
1.6 ประตูและหน้าต่าง ห้องเรียนทุกห้องต้องมีประตูเปิดสู่ระเบียงด้านขวาของ |
อาคารเรียนอย่างน้อย 2 ประตู ขนาดมาตรฐานของประตูมีความกว้าง 1.10 เมตร |
สูง 2.10 เมตร หรือสูงเสมอขอบบนหน้าต่าง ส่วนหน้าต่างควรอยู่ด้านซ้ายของ |
ห้องเรียนโดยมีจำนวนมากพอสำหรับถ่ายเทอากาศและรับแสงสว่างจากภายนอกซึ่งเป็น |
หน้าต่างที่เปิดออกทางด้านนอก ขนาดของหนาต่างที่เหมาะสมมีความกว้างประมาณ |
80 เซนติเมตรสูง 1.10 เมตร โดยขอบล่างของหน้าต่างสูงจากพื้นห้องเรียนประมาณ |
1.00 เมตร หรือสุงกว่าโต๊ะเรียนเล็กน้อย พื้นที่ประตูและหน้าต่างควรมีไม่น้อยกว่าหนึ่ง |
ในสี่ของพื้นฝาห้องเรียน |
|
|