2.  | 
            อาคารประกอบ  หมายถึง อาคารอื่น ๆ ที่ใช้ในการทำกิจกรรมต่าง ๆ  ของ | 
          
          
            นักเรียน ซึ่งประกอบด้วย  | 
            
          
          
             | 
            2.1ห้องพยาบาล ควรอยู่ชั้นล่างของอาคารเรียน  ถ้าเป็นโรงเรียนขนาดใหญ่อาจมี | 
            
          
            | อาคารพยาบาลโดยเฉพาะหนึ่งหลัง  โดยตั้งให้ไกลจากเสียงรบกวน  เช่น สนามกีฬา | 
            
          
            | โรงอาหารภายในห้องพยาบาลควรแบ่งพื้นที่ให้เป็นสัดส่วนโดยใช้ฉากหรือตู้กั้น มีเตียง | 
            
          
            | พักผู้ป่วยพอเหมาะกับจำนวนนักเรียน  และอุปกรณ์ในการปฐมพยาบาลให้พร้อม | 
            
          
            เช่น  ยาเวชภัณฑ์   เครื่องชั่งน้ำหนักเครื่องวัดความดัน  เครื่องวัดอุณหภูมิของร่างกาย  | 
            
          
            | เครื่องวัดส่วนสูง  เครื่องวัดการได้ยิน เป็นต้นการจัดแบ่งห้องพยาบาลอาจแบ่งได้  | 
            
          
            | 2  ส่วน และมีห้องน้ำอยู่ภายในห้อง  ส่วนที่  1  เป็นที่วางตู้เวชภัณฑ์  และอุปกรณ์ต่าง ๆ  | 
            
          
            | เพื่อรับการตรวจรักษา  อาจจัดโต๊ะทำแผลเล็ก ๆ น้อย ๆ และอ่างล้างมือไว้สำหรับใช่งาน | 
          
          
            | ส่วนที่  2   เป็นเตียงสำหรับคนไข้หรือจัดโต๊ะเก้าอี้สำหรับแพทย์ใช้ตรวจนักเรียน | 
            
          
          
            |   | 
            ภายในห้องพยาบาลควรได้รับแสงสว่างอย่างเพียงพอ  มีหน้าต่าง หรือช่องลม  | 
          
          
            | ช่วยให้อากาศหมุนเวียนได้ดี  และมีการรักษาความสะอาดอยู่เสมอ   ซึ่งควรมีผู้ดูแล | 
          
          
            | รับผิดชอบในการใช้อุปกรณ์และให้ยาอย่างถูกต้องปลอดภัยอาจเป็นพยาบาลหรือ | 
          
          
            | ครูสุขศึกษาก็ได้ | 
            
          
            |   | 
            2.2 โรงอาหาร   เป็นอาคารที่มีความสำคัญของโรงเรียน เพราะนักเรียนใช้เป็น | 
          
          
            | สถานที่รับประทานอาหารให้เป็นสัดส่วน  ถูกสุขลักษณะ สะดวกต่อการควบคุมเรื่อง | 
          
          
            | ความสะอาด และการสุขาภิบาลอาหาร  ลักษณะของโรงอาหารที่ดีควรมีแสงสว่างและ | 
          
          
            | การถ่ายเทอากาศที่เพียงพอ ซึ่งอาจใช้พัดลมช่วยในการหมุนเวียนอากาศ  ภายใน | 
          
          
            | โรงอาหารต้องจัดให้เป็นระเบียบเรียบร้อยและปลอดภัย  ด้วยการจัดโต๊ะอาหารและที่นั่ง | 
          
          
            | เพียงพอกับจำนวนนักเรียนพื้นที่ที่เหมาะสมคือจำนวนนักเรียน  1 คน ควรมีพื้นที่เฉลี่ย | 
          
          
            |  1 ตารางเมตร มีน้ำดื่มสะอาดพร้อมอุปกรณ์อำนวยความสะดวก  เช่น ถัง  ก๊อกน้ำ  | 
          
          
            | และล้างภาชนะที่ใช้ในการรับประทานอาหาร  จัดที่รองรับเศษอาหารให้ถูกสุขลักษณะ | 
          
          
            | และเพียงพอ  มีการควบคุมเรื่องความสะอาดของการปรุงอาหาร  และภาชนะที่ใส่อาหาร | 
          
          
            | มีเคาร์เตอร์สำหรับจ่ายอาหาร  และใช้ลวดตาข่ายกั้นเป็นบริเวณเพื่อป้องกันแมลงวัน | 
          
          
            | หรือสัตว์ต่าง  ๆ เช่น  สุนัข  แมว เข้าไปรบกวน | 
          
          
          
            |   | 
            2.3 โรงครัว เป็นสถานที่สำคัญที่ใช้ประกอบอาหารให้สะอาดถูกอนามัยที่ตั้ง | 
          
          
            | ของโรง ครัวควรห่างจากสิ่งโสโครก  กองขยะหรือสิ่งปฏิกูลต่าง ๆ พื้นห้องเป็นวัสดุทน | 
            
          
            | ไฟทึบเรียบและทำความสะอาดง่าย  มีตาข่ายที่ประตูหน้าต่างเพื่อป้องกันแมลงวันและ | 
          
          
            | หนูมีแสงสว่างเพียงพอ เพื่อความสะอาดในการปรุงอาหารและป้องกันอุบัติเหตุระบบ | 
          
          
            | การถ่ายเทอากาศดี เพราะการปรุงอาหารจะมีความร้อนและกลิ่น  ดังนั้น การตั้งเตาไฟ | 
          
          
            | จึงควรให้มีความสูงพอเหมาะกับการยืนปรุงและมีปล่องไฟดูดควันหรือกลิ่นอาหาร | 
          
          
            | ออกจากโรงครัว  จัดถังขยะรับเศษอาหารและขยะมูลฝอยต่าง ๆ ซึ่งทำความสะอาดง่าย  | 
          
          
            | มีฝาปิดมิดชิดและไม่รั่ว  มีรางระบายน้ำอย่างดี  เพื่อไม่ให้เศษอาหารตกค้างและบูดเน่า | 
          
          
            | ส่งกลิ่นเหม็น   รวมทั้งอาจเป็นแหล่งเพาะพันธุ์แมลงวันหรือเชื้อโรคต่าง ๆมีตู้เก็บอาหาร | 
          
          
            | ทีปรุงสำเร็จซึ่งควรโปร่งและป้องกันแมลงวัน  แมลงสาบหรือสัตว์อื่น ๆ ได้ ภาชนะที่ | 
          
          
            | ใส่อาหารและอุปกรณ์สำหรับประกอบอาหารไม่ควรวางบนพื้นครัว  เมื่อล้างแล้วผึ่งแดด | 
          
          
            | หรือปล่อยให้แห้งและเก็บไว้ในที่สะอาด  มีน้ำสะอาดและเพียงพอสำหรับปรุงอาหาร | 
          
          
            | และล้างภาชนะ  หรือทำความสะอาดอื่น ๆ | 
          
          
            |   | 
            2.4 ห้องพลศึกษา เป็นห้องที่ใช้สำหรับจัดเก็บอุปกรณ์และทำกิจกรรมทาง | 
          
          
            | พลศึกษาซึ่งควรคำนึงถึงเรื่องความปลอดภัยเพราะอาจเกิดอุบัติเหตุได้ง่ายโดยจัดวาง | 
            
          
            | สิ่งของให้เป็นระเบียบไม่กีดขวางพื้นที่สำหรับเรียนกิจกรรม  พื้นห้องควรทำด้วยวัสดุที่ | 
          
          
            | รองเท้าเกาะยึดได้ดี  ควรตีเส้นขอบสนามให้ห่างจากฝาผนังพอสมควร  และให้ส่วนของ | 
          
          
            | วัสดุที่ติดฝาห้องยื่นออกมาน้อยที่สุด | 
          
          
            |   | 
            2.5 ห้องน้ำห้อมส้วม   เป็นสถานที่สำคัญที่โรงเรียนต้องจัดให้เพียงพอกับจำนวน | 
          
          
            | นักเรียน  ถ้ามีนักเรียนชายมากอาจจัดที่ปัสสาวะให้ด้วยโดยแยกส้วมนักเรียนชายและ | 
          
          
            | นักเรียนหญิงไว้คนละแห่ง  มีการรักษาความสะอาดอย่างดีเพราะส้วมเป็นแหล่งที่ทำให้ | 
          
          
            | เกิดกลิ่นเหม็นรบกวนและแพร่กระจายเชื้อโรค  รวมทั้งเป็นแหล่งเพาะพันธุ์ของแมลง | 
          
          
            | นำโรคต่าง ๆหลักของการสร้างส้วมควรตั้งในทำเลที่มีอากาศถ่ายเทได้ดี  มีท่อระบาย | 
          
          
            | แก๊สภายในส้วมขึ้นสู่อากาศไม่อับทึบ  มีแสงสว่างเพียงพอ  สะดวกในการใช้และรักษา | 
          
          
            | ความสะอาด  ไม่ชื้น ที่เก็บอุจจาระมิดชิดป้องกันแมลงวันและสัตว์ได้ดี  และมีอ่างล้างมือ | 
          
          
            | ควรมีประกาศห้ามทิ้งสิ่งใด ๆ ลงในส้วมเพื่อป้องกันส้วมเต็ม  เกณฑ์ในการคำนวณ | 
          
          
            | จำนวนส้วมและมีปัสสาวะที่เหมาะสมคือ  3 ที่ต่อนักเรียน 100 คนแรกและเพิ่มส้วม  1  | 
          
          
            | ที่ต่อจำนวนนักเรียนที่เพิ่มขึ้น  60 – 100 คน สำหรับนักเรียนชายในระดับประถม | 
          
          
            | และมัธยม  ส่วนนักเรียนหญิง  100 คนแรกควรมีส้วม 3 ที่และเพิ่มขึ้นอีก 1 ที่เมื่อ | 
          
          
            | มีนักเรียนเพิ่มขึ้นอีก  30 – 50 คนสำหรับนักเรียนระดับประถมและมัธยมตามลำดับ | 
          
          
          
            3.  | 
            อุปกรณ์และเครื่องมือเครื่องใช้ในห้องเรียน ภายในห้องเรียนจำเป็นต้องมี | 
          
          
            | อุปกรณ์ต่าง ๆ  เพื่อใช้ในกิจกรรมการเรียนการสอน   ซึ่งต้องจัดให้ถูกสุขลักษณะ | 
            
          
            | และใช้ได้สะดวก ประกอบด้วย | 
          
          
             | 
            3.1 โต๊ะครู ใช้สำหรับวางสมุด   หนังสือ  อุปกรณ์ ประกอบการสอนต่าง  ๆ อาจตั้ง | 
          
          
            | ด้านซ้ายหรือขวาของห้องเรียน  เพื่อความสะดวกในการใช้กระดานมากกว่าวางกลาง | 
          
          
            | หน้ากระดานชอล์ก | 
            
          
            |   | 
            3.2 โต๊ะเรียนและม้านั่ง   มีความสำคัญต่อการเรียนรู้ของนักเรียน ซึ่งเป็นวัยที่ | 
          
          
            | กำลังเจริญเติบโตทั้งทางร่างกายและจิตใจเพราะถ้าโต๊ะเรียนกับม้านั่งไม่ได้สัดส่วน | 
          
          
            | จะทำให้เสียบุคลิกหรือร่างกายผิดส่วนไป   โดยทั่วไปโต๊ะเรียนควรมีความกว้าง 1 ศอก | 
          
          
            | ยาว 2  ศอกของผู้นั่งหรือมีพื้นที่ไม่น้อยกว่า  35 X 70 ตารางเซนติเมตร  ฝาโต๊ะควรมี | 
          
          
            | ความลาดประมาณ 15 องศา และระดับล่างของฝาโต๊ะควรมีช่องว่างหน้าตักให้ผู้นั่ง | 
          
          
            | เข้าออกสะดวก  ส่วนม้านั่ง ควรมีความสูงเท่ากับท่อนขาส่วนล่างของนักเรียน   เมื่อวาง | 
          
          
            | ฝ่าเท้าราบกับพื้นโดยหัวเข่าเป็นมุมฉากได้ ความกว้างของที่นั่งควรมีขนาดสองในสาม | 
          
          
            | ของความยาวของขาผู้นั่ง  พื้นเป็นแอ่งดีกว่าพื้นราบ พนักพิงไม่ควรสูงกว่าสะบักส่วน | 
          
          
            | ล่างพนักพิงไม่ทึบ  ควรปล่อยช่องว่างให้นั่งสบาย  กองสุขาภิบาลกรมอนามัย ได้กำหนด | 
          
          
            | ขนาดโต๊ะเรียนและม้านั่งให้เหมาะสมกับนักเรียนที่มีรูปร่างแตกต่างรวม  5 ขนาด  | 
            
          
            |   | 
              | 
          
          
             | 
            
          
            |   | 
              | 
          
          
            | การจัดโต๊ะเรียนและม้านั่งให้ถูกสุขลักษณะควรใช้โต๊ะเดี่ยวมากกว่าโต๊ะหมู่  มีความ | 
            
          
            | สะอาด มั่นคง แข็งแรง  จัดโต๊ะให้ได้แสงสว่างเหมาะสม มีช่องว่างระหว่างแถวไม่ต่ำกว่า  | 
          
          
            | 45  เซนติเมตร เพื่อให้ลุกนั่งได้สะดวก  และครูสามารถเดินตามโต๊ะนักเรียนได้ไม้ควร | 
          
          
            | ตรึงโต๊ะและม้านั่งติดอยู่กับที่เพราะไม่สะดวกในการจัดทำกิจกรรมและโยกย้าย | 
            
          
            |   | 
            3.3 กระดานชอล์ก   มักทำด้วยกระดานไม้อัดทาสีเขียว เพื่อช่วยให้นักเรียนรู้สึก | 
          
          
            | เย็นตาและกล้ามเนื้อไม่ต้องทำงานมากจากการเพ่งมองสีขาวกับสีเขียว การติดตั้ง | 
            
          
            | กระดานชอล์กควรติดกับฝาผนังห้องเรียนในระดับที่สูงพอที่นักเรียนแถวหน้าห่างจาก | 
          
          
            | กระดานไม่น้อยกว่า  2  เมตร และแถวหลังห่างไม่เกิน  9 – 10 เมตร กระดานชอล์กควร | 
          
          
            | มีขอบหรือกรอบไม้ทาสีขาวหรือรางไม้ติดไว้ขอบล่างสำหรับรองรับผงชอล์ก สีที่ใช้ | 
          
          
            | ทาควรเป็นสีด้าน  หรือมีการสะท้อนไม่เกินร้อยละ 20 เพื่อไม่ให้แสงชอนนัยน์ตา  และ | 
          
          
            | ช่วยในการมองให้ชัดเจนขึ้น  ควรมีการซ่อมแซมทาสีเพื่อให้เขียนได้ชัดเจนและ | 
          
          
            | ทำความสะอาดเป็นระยะ  ๆ สำหรับแปรงลบกระดานควรมีไว้ประจำและทำความสะอาด | 
          
          
            | อยู่เสมอ | 
          
          
            |   | 
            3.4 สนามกีฬา เป็นสิ่งจำเป็นที่ต้องมีในโรงเรียนเพื่อให้นักเรียนได้ใช้เป็นที่ | 
          
          
            | ออกกำลังกายเพื่อช่วยส่งเสริมสุขภาพให้แข็งแรง  การจัดแบ่งพื้นที่สนามควรมีพื้นที่ | 
          
          
            | อัตราเฉลี่ยไม่ต่ำกว่าครึ่งหนึ่งของบริเวณโรงเรียน  ถ้าเป็นสนามฟุตบอล ควรอยู่ด้าน  | 
          
          
            | หน้า ควรอยู่ด้านหน้าของโรงเรียน  ทางทิศเหนือหรือทิศใต้  เพื่อไม่ให้แดดชอนตา | 
          
          
            | นักเรียนขณะเล่นกีฬา ส่วนสนามกีฬาเล็กหรือสนามบางประเภท  เช่น สนามเด็กเล่น | 
          
          
            | ควรจัดอยู่ด้านข้างหรือด้านหลังของโรงเรียน พื้นสนามควรปรับให้เรียบไม่เป็นหลุม | 
          
          
            | บ่อเพื่อป้องกันอุบัติเหตุ  พลัดตกหกล้ม รวมทั้งมีระบบการระบายน้ำที่ดี ปลูกและบำรุง | 
            
          
            | หญ้าอย่าง สวยงาม  ริมของสนามควรปลูกต้นไม้ใบทึบเพื่อกันแดด  และเป็นที่ร่ม | 
            
          
            | เงาของนักเรียน  รวมทั้งช่วยป้องกันเสียงรบกวนได้ระดับหนึ่ง  ควรจัดม้านั่งและมีถัง | 
          
          
            | รองรับขยะมูลฝอยเป็นระยะ  ๆ  | 
          
          
            4.  | 
            การถ่ายเทอากาศและแสงสว่าง มีส่วนสำคัญในการช่วยสร้างเสริมหรือบั่น | 
          
          
            | ทอนการเรียนการสอนโดยเฉพาะในห้องเรียน  เพราะถ้าการถ่ายเทอากาศใน | 
            
          
            | ห้องไม่ดีพอเกิดความอบอ้าว  จะทำให้นักเรียนง่วงเหงาหาวนอน  ปวดศีรษะ หรือมึนซึม | 
          
          
            | จึงควรมีประตูหน้าต่างให้เพียงพอโดยมีเนื้อที่ของช่วงประตู  หน้าต่างไม่น้อยกว่า | 
          
          
            | ร้อยละ 20 ของพื้นที่ห้องทั้งหมด  รอบห้องเรียนควรมีช่องลมปิดด้วยไม้ตีเป็นลูกกรง | 
          
          
            | และมีชายคาคลุมกันฝนสาดเข้าได้ บริเวณโดยรอบห้องเรียนภายในระยะ  8 เมตร  | 
          
          
            | ไม่ควรปลูกต้นไม้ใหญ่ เพื่อไมให้ขัดขวางการระบายอากาศและช่วยให้หลังคาไม่  | 
            
          
            | สกปรกชำรุดได้ง่าย | 
          
          
            |   | 
            สำหรับแสงสว่างที่เหมาะสมกับสายตา  ควรส่องเข้าทางซ้ายมือของนักเรียน ถ้าแสง | 
          
          
            | สว่างจากธรรมชาติไม่เพียงพอควรหาหลอดไฟฟ้ามาเพิ่ม  ซึ่งต้องส่องสม่ำเสมอไม่ใช่ | 
            
          
            | ่แสงกระพริบและใช้การทาสีภายในห้องช่วยการสะท้อนแสงในห้องเรียนประกอบซึ่งสี | 
            
          
            | ต่าง  ๆ จะให้กำลังสะท้อนแสงแตกต่างกันออกไป | 
          
          
            |   | 
          
          
             | 
          
          
            |   | 
          
          
          
            5.  | 
            น้ำดื่ม  น้ำใช้  และการระบายน้ำในบริเวณโรงเรียน  น้ำเป็นสิ่งจำเป็น | 
          
          
            | สำหรับการดำรงชีวิต  โรงเรียนจึงต้องจัดบริการน้ำดื่มน้ำใช้ให้นักเรียน ซึ่งต้องเป็นน้ำ | 
            
          
            | สะอาดปลอดภัยปราศจากเชื้อโรค  และมีจำนวนเพียงพอโดยอาจคำนวณในเกณฑ์ 3–4  | 
          
          
            | ลิตรต่อคนต่อวัน  โรงเรียนที่ตั้งในเขตการประปา  อาจจัดตู้น้ำเย็น อ่างน้ำพุ หรือใช้ | 
          
          
            | เครื่องกรองน้ำเพื่อให้บริการน้ำดื่ม  เพราะน้ำประปา  อาจจัดตู้น้ำเย็น อ่างน้ำพุหรือใช้ | 
          
          
            | น้ำเพื่อให้บริการน้ำดื่ม  เพราะน้ำประปา จะผ่านการกำจัดเชื้อโรค  ความขุ่นและความ | 
          
          
            | เป็นกรดด่างมากแล้ว ถ้าโรงเรียนจัดน้ำฝนให้บริการเป็นน้ำดื่มควรระมัดระวังเรื่อง | 
          
          
            | ความสะอาด ซึ่งอาจเก็บในแท็งก์น้ำ  หรือทำถังเก็บน้ำฝนมีฝาปิดมิดชิดและทำความ  | 
          
          
            | สะอาดอย่างน้อยปีละครั้ง และเริ่มรองน้ำฝนหลังจากที่ฝนตกหลายครั้ง  เพื่อให้น้ำฝน | 
          
          
            | ชะล้างสิ่งสกปรกบนหลังคาก่อน  ถ้าเป็นน้ำบ่อควรตั้งให้ห่างจากแหล่งน้ำโสโครก | 
          
          
            | อย่างน้อย  30 เมตร  มีขอบบ่อกั้นเพื่อป้องกันดินพัง ขอบบ่อต้องสูงจากพื้นดินไม่น้อย | 
          
          
            | กว่า 50  เซนติเมตร ทำลานซีเมนต์รอบปากบ่อ  มีทางระบายน้ำ และมีฝาปิดครอบ | 
          
          
            | ไม่ให้เชื้อโรคหรือฝุ่นละอองตกลงในบ่อโดยติดตั้งเครื่องสูบน้ำแทนการใช้ถังผูกเชือก  | 
          
          
            | หย่อนตักในน้ำและต้มน้ำให้เดือดประมาณ 5 นาที ก่อนนำไปดื่ม  ส่วนอ่างน้ำพุแล | 
          
          
            | ะอ่างล้างมือควรแยกไว้ต่างหาก  และติดตั้งไว้ให้เหมาะสมกับส่วนสูงของนักเรียน | 
          
          
            | อ่างน้ำพุและอ่างล้างมือควรทำจากวัสดุไม่อุ้มน้ำ  ขัดล้างและทำความสะอาดได้ง่าย | 
          
          
            | จำนวนอ่างล้างมือควรมีอย่างน้อย  1 ทีต่อจำนวนนักเรียน 50 คน หรือก๊อกน้ำดื่มใช้ 1  | 
          
          
            | ก๊อกต่อนักเรียน 50  คน เพิ่มอีก 1 ก๊อก สำหรับนักเรียนที่เกิน 50 คน  แต่ไม่ถึง | 
          
          
            | 100  คน | 
            
          
            |   | 
            การระบายน้ำในบริเวณโรงเรียน  ควรทำรางหรือท่อน้ำทิ้งเพื่อไม่ให้น้ำท่วมขัง | 
          
          
            | ซึ่งอาจส่งกลิ่นเหม็น  เป็นแหล่งเกิดเชื้อโรค และเป็นที่เพาะพันธุ์ยุง แมลงวัน และ | 
          
          
            | แมลงสาบ  การวางแนวระบายน้ำควรแบ่งออกเป็นทาง  ๆ เพื่อแบ่งปริมาณน้ำให้ไหลเป็น | 
          
          
            | หลายทาง น้ำโสโครกจากห้องน้ำ  ห้องส้วม  ควรจัดทำโดยใช้การต่อท่อลงถังเกรอะ | 
          
          
            | บ่อซึมแยกต่างหาก  | 
          
          
          
            6.  | 
            การกำจัดขยะมูลฝอย ขยะมูลฝอยเป็นบ่อเกิดของเหตุรำคาญต่าง ๆ  และ | 
          
          
            | เป็นแหล่งเพาะพันธุ์แมลงวัน  หรือเป็นที่อยู่อาศัยของหนู และสัตว์อื่น ๆ ขยะมูลฝอย | 
          
          
            | ในโรงเรียนส่วนมากมักเป็นเศษกระดาษ  เศษอาหาร และวัสดุเหลือใช้ต่าง ๆ ห้อง  | 
          
          
            | เรียนทุกห้องจึงควรมีตะกร้าสำหรับใส่เศษกระดาษขยะมูลฝอย  และนำไปเททิ้งทุกวัน | 
          
          
            | สำหรับขยะมูลฝอย เปียกหรือเศษอาหารควรจัดภาชนะรองรับให้เพียงพอและทิ้งใน | 
          
          
            | หลุมที่ขุดไว้  เมื่อเททิ้งทุกครั้งควรเอาดินหรือทรายเทกลบให้หนาประมาณ  20 ซม.  | 
            
          
            | เพื่อป้องกันกลิ่นเหม็นและสัตว์ไปคุ้ยเขี่ย ถ้าโรงเรียนตั้งอยู่เขตเทศบาลที่มีการกำจัด | 
            
          
            | ขยะมูลฝอยควรนำไปเทรวมในภาชนะที่เจ้าหน้าที่ตั้งไวเป็นประจำทุกวัน โรงเรียนควร | 
            
          
            | จัดหาภาชนะสำหรับทิ้งขยะมูลฝอย  ตั้งไว้ตามที่ต่าง ๆ ซึ่งควรมีฝาปิดและทำความสะอาด | 
            
          
            | ได้ง่าย | 
            
          
            7.  | 
            การป้องกันโรคติดต่อ  โรงเรียนควรตรวจตราและสังเกตนักเรียน โดยจัดทำบันทึก | 
          
          
            | ประวัติสุขภาพของนักเรียนเพื่อป้องกันและเฝ้าระวังโรค  ถ้าพบว่านักเรียนเป็นโรค | 
          
          
            | ติดต่อควรอนุญาตให้นักเรียนพักการเรียนชั่วคราวจนกว่าจะหายเป็นปกติ  | 
          
          
            | โรคที่เกิดขึ้นอาจติดต่อด้วยวิธีต่าง  ๆ  | 
          
          
            |   | 
            
          
            |                | 
            
          
            |   | 
              | 
          
          
            8.  | 
            สุขวิทยาส่วนบุคคล   เป็นสิ่งที่โรงเรียนสอนให้นักเรียนรู้จักดูแลรักษาสุขภาพ | 
          
          
            | ต่าง ๆ เช่น  การดูแลรักษาฟัน การออกกำลังกาย   การรับประทานอาหาร ท่านั่งเรียน | 
            
          
            ที่เหมาะสมโดยครูเป็นบุคคลสำคัญในการอบรมสั่งสอนให้นักเรียนมีความรู้และทัศนคติ  | 
            
          
            | ที่ดีในการรักษาสุขภาพของตัวเอง | 
            
          
            |   | 
            องค์ประกอบต่าง  ๆ ดังกล่าวเป็นสิ่งที่จำเป็นในการจัดการสุขาภิบาลโรงเรียน | 
          
          
            | ดังแผนภูมิ | 
            
          
            |   | 
              | 
          
          
             | 
            
          
            |   | 
              | 
              | 
              | 
          
          
            |   | 
              | 
              | 
              |