|   | 
            1.2 มาตรฐานน้ำทิ้ง  เป็นเกณฑ์ที่กำหนดขึ้นเพื่อไม่ให้โรงงานอุตสาหกรรมที่พัก | 
          
          
            อาศัยหรือหน่วยงานอื่น  ๆ ปล่อยน้ำเสียหรือน้ำทิ้งที่มีความสกปรกมากจนทำให้น้ำ  | 
            
          
            | มีคุณภาพต่ำมาก มาตรฐานน้ำทิ้งจึงมีความสำคัญในการจัดการน้ำสะอาด  และช่วย | 
          
          
          
            | ควบคุมคุณภาพน้ำไม่ให้ส่งผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม  เช่น พื้นดินหรือแหล่งน้ำต่าง ๆ  | 
          
          
            | และสามารถนำน้ำทิ้งที่ผ่านการบำบัดแล้วมาใช้ได้อีกด้วย  ประเทศไทยได้กำหนด | 
          
          
            | มาตรฐานน้ำทิ้งออกเป็น  4 ประเภท คือ | 
          
          
          
            |   | 
            1. มาตรฐานน้ำทิ้งจากโรงงานอุตสาหกรรม | 
          
          
            |   | 
            2. มาตรฐานน้ำทิ้งลงบ่อน้ำบาดาล | 
          
          
            |   | 
            3. มาตรฐานและวิธีการตรวจสอบคุณภาพน้ำทิ้งจากอาคาร | 
          
          
            |   | 
            4. มาตรฐานการควบคุมการปล่อยน้ำทิ้งจากกิจกรรมต่าง  ๆ ลงสู่ลำน้ำ | 
          
          
            |   | 
            1.3 มาตรฐานน้ำเพื่อการอุปโภคบริโภค  เป็นเกณฑ์ที่กำหนดคุณภาพขั้นต่ำของ | 
          
          
            น้ำเพื่อใช้ในการอุปโภคบริโภคให้ปลอดภัย  กรมวิทยาศาสตร์การแพทย์ กระทรวง  | 
            
          
            | สาธารณสุขได้กำหนดคุณสมบัติของน้ำดื่มไว้ | 
          
          
            |   | 
          
          
            เกณฑ์มาตรฐานน้ำเพื่อการอุปโภคบริโภคของกรมวิทยาศาสตร์การแพทย์  | 
          
          
             | 
          
          
          
            
  | 
          
          
          
            |   | 
            ขณะที่การประปานครหลวงซึ่งมีหน้าที่ผลิตน้ำเพื่ออุปโภคบริโภคให้แก่ชุมชนได้ | 
          
          
          
            | กำหนดเกณฑ์ของน้ำดื่มไว้  2 ประการ คือ | 
            
          
            1.  | 
            สารที่เกี่ยวกับคุณภาพของน้ำซึ่งเป็นอันตรายต่อสุขภาพ  แต่ถ้ามีมากเกินที่ | 
          
          
            | กำหนดอาจทำให้น้ำไม่น่าดื่ม | 
          
          
            ระดับของสารปนเปื้อนในน้ำที่ไม่เป็นอันตรายต่อสุขภาพตามข้อกำหนดของการ  | 
          
          
          
            | ประปานครหลวง | 
            
          
             | 
            
          
            |   | 
            
          
            2.  | 
            สารที่เกี่ยวข้องกับสุขภาพ  ถ้ามีมากเกินกำหนดอาจทำให้เกิดโรคได้ | 
          
          
            ระดับของสารปนเปื้อนในน้ำที่ไม่ทำให้เกิดโรคตามเกณฑ์ของการประปานครหลวง  | 
            
          
             | 
            
          
            |   | 
            
          
            |   | 
            และสำหรับเกณฑ์มาตรฐานของน้ำบริโภคบริโภคในภาชนะบรรจุปิดสนิท  ตาม | 
          
          
            | ประกาศของกระทรวงสาธารณสุข  ฉบับที่  61 (พ.ศ. 2524) และตามประกาศของ | 
            
          
            | กระทรวงสาธารณสุข  ฉบับที่  135 (พ.ศ. 2534)  เพื่อจำหน่ายได้กำหนดมาตรฐานไว้ | 
          
          
             | 
          
          
          
            |   | 
            จากข้อมูลตามเกณฑ์มาตรฐานน้ำดื่มดังกล่าว  พบว่า น้ำไม่ควรมีการปนเปื้อนหรือ | 
          
          
            | มีการปนเปื้อนน้อยที่สุดโดยพิจารณาคุณภาพด้าน  เคมี  กายภาพ และชีวภาพ | 
            
          
          
            2.  | 
            การปรับปรุงคุณภาพน้ำ   จากคุณลักษณะของน้ำในการละลายหรือมีสาร | 
          
          
            | ปนเปื้อนเมื่อไหลผ่านที่ต่าง  ๆ ทำให้น้ำเกิดความสกปรก ที่อาจมีคุณภาพต่ำกว่าเกณฑ์ | 
          
          
            | ซึ่งก่อให้เกิดอันตรายต่อสุขภาพ  เพราะทำให้เกิดโรคต่าง ๆ จึงจำเป็นต้องมีการ | 
          
          
            | ปรับปรุงน้ำดิบเพื่อให้น้ำสะอาดและปลอดภัยต่อการอุปโภคบริโภค  ซึ่งทำได้หลายวิธี | 
          
          
            | การ เช่น | 
          
          
          
            |   | 
            2.1 การต้ม  เป็นวิธีที่เหมาะสมสำหรับใช้เป็นน้ำดื่มของครอบครัว โดยนำน้ำที่ | 
          
          
            | ตกตะกอนมาต้มให้เดือด  15 – 20  นาที  จะช่วยฆ่าเชื้อโรคและไข่หนอนพยาธิได้ | 
            
          
            |   | 
            2.2 การกรอง  เป็นวิธีทำน้ำให้สะอาด สามารถลดจำนวนเชื้อโรคได้ร้อยละ | 
          
          
            | 95 – 99 เพราะการกรองคือการทำให้น้ำไหลผ่านวัสดุที่ใช้กรองเป็นชั้น  ๆ  | 
            
          
            | เครื่องกรองน้ำแบบง่าย  ๆ โดยใช้โอ่ง  และใส่วัสดุ ดังนี้ | 
            
          
             | 
            
          
             | 
          
          
            |   | 
            2.3 การกลั่น  เป็นวิธีการทำน้ำที่จะได้น้ำสะอาดที่สุด  เพราะเริ่มจากการทำให้น้ำ  | 
          
          
            | กลายเป็นไอ  แล้วไปกระทบความเย็น ไอน้ำจะกลั่นตัวเป็นหยดน้ำ  จัดเป็นวิธีการ | 
          
          
            | ที่สิ้นเปลืองเวลาและค่าใช้จ่ายมาก  จึงนิยมใช้กับกิจการที่ต้องการน้ำสะอาดบริสุทธิ์  | 
          
          
            | เช่น  การแพทย์หรือเภสัชกรรม | 
          
          
            |   | 
            2.4 การกวนด้วยสารส้ม  เป็นวิธีการทำน้ำให้สะอาดอย่างง่าย ๆ เพื่อให้เกิดการ | 
          
          
            | ตกตะกอนในน้ำ  การกวนด้วยสารส้มในตุ่มหรือโอ่งน้ำ ครั้งแรกให้กวนเร็ว ๆ เพื่อให้  | 
          
          
            | สารส้ม กระจายไปทั่วประมาณ  1นาที จึงกวนซ้ำ ๆ อีก 20 – 30 นาที จะได้น้ำใส  | 
          
          
            | เพราะตะกอนจะรวมตัวนอนก้นภาชนะ | 
          
          
          
            |   | 
            2.5 การใช้ยาทำลายเชื้อโรค  เพื่อทำให้น้ำสะอาดปราศจากเชื้อโรค ยาฆ่าเชื้อโรค | 
            
          
            | ที่ใช้สำหรับทำน้ำให้สะอาด ประกอบด้วย  | 
          
          
            |   | 
            1) ด่างทับทิม  ใช้ละลายในน้ำเพื่อทำลายเชื้อโรคบางชนิด | 
          
          
            |   | 
            2) ทิงเจอร์ไอโอดีน  ชนิดใส่แผลสด ใช้ฆ่าเชื้อโรคในน้ำ 2 หยดต่อน้ำ 1 ลิตร | 
            
          
            | ทิ้งไว้  30 นาทีจึงนำไปบริโภคได้ | 
          
          
            |   | 
            3) คลอรีน  เป็นวิธีการฆ่าเชื้อโรคในน้ำที่มีประสิทธิภาพสูง สามารถทำลายเชื้อ | 
            
          
            | โรคได้ทุกชนิดและนิยมใช้กันมาก  การใส่คลอรีนในน้ำมีอัตราส่วนใช้คลอรีนผง | 
          
          
            | ช้อนชาต่อน้ำ  1 ตุ่ม (10  ปี๊บ) โดยการละลายผงคลอรีนในน้ำ  1 ถ้วนก่อนแล้วคนให้ | 
          
          
            | คลอรีนละลาย เทส่วนที่ใสลงตุ่มน้ำให้ผสมกันดี ทิ้งไว้ 20 นาทจึงตักน้ำไปใช้ได้  | 
          
          
            |   | 
              | 
            
          
            |                                            | 
            
          
            |   | 
             | 
            
          
            |   | 
             | 
            
          
            |   | 
              | 
              | 
              |