การสูญเสียความสมดุลในระบบนิเวศ

  โดยธรรมชาติระบบนิเวศซึ่งประกอบด้วยส่วนต่าง ๆ มีหน้าที่แตกต่างกันไป ถ้าไม่
มีสิ่งใดเปลี่ยนแปลงไปอย่างรวดเร็วและรุนแรง ระบบนิเวศจะอยู่ในภาวะสมดุลเป็นปกติ
แม้ว่าในระบบนิเวศจะมีกระบวนการหลาย ๆ อย่างทั้งการผลิต การบริโภค และการย่อม
สลายเป็นวัฎจักรแต่องค์ประกอบในแต่ละส่วนของวงจรจะมีการใช้และการปรับปรุง
ซ่อมแซมอยู่ตลอดเวลา ซึ่งเรียกว่าเป็นภาวะของ “ความสมดุลในระบบนิเวศ 
(Ecosystem Balance) ความสมดุลดังกล่าวจะคงอยู่ถ้าไม่มีกระบวนการใด ๆ
ไปทำให้กระบวนการต่าง ๆ หยุดชะงักหรือเปลี่ยนแปลงไปจากเดิม เช่น การสร้างเขื่อน
ทำให้เกิดอ่างเก็บน้ำบริเวณหน้าเขื่อนและในบริเวณหลังเขื่อน น้ำจะน้อยลงกว่าเดิม
สภาพเช่นนี้ทำให้น้ำบริเวณหน้าเขื่อนจะมีปริมาณมากขึ้น ขณะที่น้ำบริเวณหลังเขื่อน
จะลดปริมาณลง อันเป็นการเปลี่ยนแปลงระบบนิเวศที่ทำให้สิ่งมีชีวิตทั้งสองบริเวณ
แตกต่างกัน ปลาบางชนิดที่เคยขึ้นไปวางไข่บริเวณหน้าเขื่อนก็ขึ้นไม่ได้ ทำให้ปลา
ในบริเวณหน้าเขื่อนลดลงจากสภาพดังกล่าว ลักษณะของการตกตะกอนของบริเวณ
ทั้งสองแห่งก็จะมีความแตกต่างกันและเป็นจุดเปลี่ยนแปลงระบบนิเวศแบบค่อยเป็น
ค่อยไป
  การสูญเสียความสมดุลในระบบนิเวศอาจเกิดขึ้นเองจากธรรมชาติ หรือ จากน้ำ
มือของมนุษย์ แต่ผลกระทบมีความแตกต่างกันเพราะสิ่งที่เกิดขึ้นตามธรรมชาติย่อม
มีการแก้ไขให้สมดุลได้ด้วยตัวเอง เช่น ในพื้นที่ที่มีหญ้าอุดมสมบูรณ์ ย่อมมีสัตว์ต่าง ๆ
อาศัยอยู่เช่นกวางชนิดต่าง ๆ ที่มีจำนวนมากจะถูกจับเป็นอาหารของสัตว์กินเนื้อ
ประเภทเสือหรือสิงโต ซึ่งเป็นการลดปริมาณของกวางในพื้นที่ดังกล่าวไม่ให้มีจำนวน
มากเกินไป แต่ถ้าจำนวนกวางลดลงมากเกินไปย่อมทำให้สัตว์กินเนื้อ ขาดแคลนอาหาร
และอาจต้องอพยพไปหาแหล่งอาหารใหม่เพื่อความอยู่รอด
  มนุษย์มีสวนทำลายระบบนิเวศมากที่สุด อันเนื่องมาจากสาเหตุต่าง ๆ เช่น การ
เพิ่มขึ้นของประชากร การขยายตัวของเมือง การขยายตัวของพื้นที่เพื่อทำการเกษตร
กรรม การนำเทคโนโลยีมาพัฒนารูปแบบการเกษตรสมัยใหม่ การตั้งโรงงาน
อุตสาหกรรม รวมทั้งการสร้างเทคโนโลยีใหม่ ๆ เพื่อความสะดวกในการดำรงชีวิตล้วน
ทำให้ระบบนิเวศถูกทำให้เสียสมดุลอย่างรวดเร็วและรุนแรง มูลเหตุที่ทำลายระบบ
นิเวศที่สำคัญ ๆ ประกอบด้วย
1.
การเพิ่มประชากร  ทำให้มีความต้องการในการใช้ที่ดินเพื่อทำการเกษตรเพิ่ม
ขึ้น ในประเทศกำลังพัฒนาโดยเฉพาะอย่างยิ่งในเขตร้อนกำลังประสบปัญหาการทำ
ลายพื้นที่ป่าเป็นจำนวนมากเนื่องจากประชากรจะบุกเบิกพื้นที่ป่าเพื่อทำไร่เลื่อนลอย
ทำให้ดิน ป่าไม้ สภาวะแวดล้อมเสียหายเป็นจำนวนมาก ขณะที่ผลผลิตที่ได้ไม่มี
มูลค่าเพียงพอกับทรัพยากรที่สูญเสียไป
2.
การเกษตรสมัยใหม่  ที่เปลี่ยนแปลงจากการผลิตเพื่อบริโภคเป็นการผลิตเพื่อการ
ค้าทำให้มีการนำสารเคมีเช่น ปุ๋ย  ยาฆ่าแมลง ยากำจัดวัชพืชมาเร่งอัตราการเติบโต
เพื่อผลกำไรทางธุรกิจ การนำสารต่าง ๆ มาใช้มักเกิดการตกค้างในดินและอาจถูก
ชะล้างในแหล่งน้ำไปส่งผลกระทบสิงมีชีวิตในน้ำและในดิน การเร่งผลผลิตมากเกิน
ไปจะได้ผลผลิตที่เพิ่มขึ้น แต่เป็นการทำลายแร่ธาตุ ในดินให้ลดลงอย่างรวดเร็ว
เช่นเดียวกัน
3.
การขยายตัวของเมือง จากการเพิ่มขึ้นของประชากรทำให้เกิดความต้องการที่พัก
อาศัยเพิ่มขึ้นจึงเกิดการขยายตัวของเมืองอย่างรวดเร็ว พื้นที่ทางการเกษตรจะถูกใช้
เพื่อการสร้างที่พักอาศัยและเป็นสถานที่เพื่อประกอบกิจกรรมต่าง ๆ เช่นการสร้างตึก
ศูนย์การค้า ถนนหนทาง ทำให้ระบบนิเวศเปลี่ยนแปลงไป เกิดการถ่ายเทของเสีย
จากเมืองซึ่งทำให้เกิดมลพิษทางน้ำและอากาศ อันส่งผลกระทบต่อการดำรงอยู่ของ
สิ่งมีชีวิต โดยเฉพาะมนุษย์โดยตรง
4.
การอุตสาหกรรม เป็นกิจกรรมที่นำทรัพยากรธรรมชาติมาใช้เป็นวัตถุดิบใน
ปริมาณมากเกินกว่าธรรมชาติจะสร้างทดแทนให้มีความสมดุลดังเดิมได้ ซึ่งทำให้เกิด
ภาวะของผู้บริโภคมีจำนวนมากกว่าผู้ผลิตในระบบนิเวศ อันส่งผลให้เกิดความ
เสื่อมโทรมหรือภาวะขาดแคลนของทรัพยากรธรรมชาติต่าง ๆ นอกจากนี้กระบวน
การผลิตในภาคอุตสาหกรรมจะมีของเสียเกิดขึ้น เช่น น้ำเสีย ไอเสีย ที่ส่งผลกระทบ
ต่อการเปลี่ยนแปลงระบบนิเวศในบริเวณที่โรงงานอุตสาหกรรมตั้งอยู่และบริเวณ
ใกล้เคียงอันมีส่วนสำคัญในการทำลายการเติบโตของสิ่งมีชีวิตต่าง ๆ โดยตรง
 
       
       
       

 

2.1
  ความหมายของนิเวศวิทยา
2.2
  ขอบข่ายของนิเวศวิทยา
2.3
  คำศัพท์ในระบบนิเวศ
2.4
  องค์ประกอบของระบบนิเวศ
2.5
  ปัจจัยที่กำหนดลักษณะ
  ของระบบนิเวศ
2.6
  ความสัมพันธ์ของนิเวศวิทยา
    กับสุขภาพสิ่งแวดล้อม
2.7
  ประโยชน์ของการรักษาระบบนิเวศ
2.8
  การสูญเสียความสมดุลย์ระบบนิเวศ
2.9
  การรักษาความสมดุลของระบบนิเวศ
     
     
     
     
     
     
     
     
     
     
     
     
     
     
     
     
     
     
     
     
     
     
     
     
     
     
     
     
     
     
     
     
     
     
     
     
     
     
     
     
     
     
     
     
     
 
             
             
             
0